Investing.com - หุ้นเอเชียแปซิฟิกเปิดตลาดแบบขาลงในวันนี้ หลังจากเซสชั่นการซื้อขายที่หลากหลายในวอลล์สตรีท
เมื่อเวลา 11:50 a.m. AEDT (12:50 a.m. GMT) ดัชนี S&P/ASX 200 ขยับลง 0.2% ขณะที่ KOSPI 200 และ Nikkei 225 เพิ่มขึ้น 0.6% และ 1.5% ตามลำดับ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดด้วยผลลัพธ์ที่หลากหลาย เนื่องจากกระแสที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังช่วยให้ อุตสาหกรรมดาวโจนส์ และ S&P 500 กลายเป็นสีเขียว ขณะที่ Nasdaq ปรับลง 0.3% รายงานการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นถึงความกังวลของผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นโดยรวม
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับขึ้น 0.9% เป็น 83.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ทองคำ ยังคงทรงตัวที่ 2,024.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 2 ปีลดลงเป็น 3.81% และอัตราผลตอบแทน 10 ปีก็ลดลงเป็น 4.17% เช่นกัน
ในทางกลับกัน พันธนบัตรสหรัฐฯ กลับเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 2 ปีอยู่ที่ 4.67% และอัตราผลตอบแทน 10 ปีอยู่ที่ 4.32%
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ลดลงเล็กน้อยเป็น 65.45 เซนต์สหรัฐ
หุ้นจีนปิดสูงขึ้นกลับตัวจากการขาดทุนในช่วงแรก การเพิ่มขึ้นของหุ้นระดับ A นั้นได้รับการสนับสนุนจากการอนุมัติสินเชื่อสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 1.60 แสนล้านหยวนของกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองหรือชนบทของจีน ขณะเดียวกันหุ้นฮ่องกงก็ปิดตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าหน่วยงานกำกับดูแลที่อยู่อาศัยของจีนอนุมัติเงินกู้สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 160 พันล้านหยวน
หุ้นญี่ปุ่นปิดลดลงจากหุ้นเทคโนโลยีและประกันภัย เนื่องจากการเทขายทำกำไรหลังดัชนีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเร็ว ๆ นี้ หุ้นอินเดียก็ปิดลดลงเช่นกันหยุดสถิติการทำกำไร 6 เซสชั่นติดต่อกันตามการขาดทุนของวอลล์สตรีทในวันก่อนหน้า
ในยุโรป ดัชนี Stoxx 600 ขยับลง 0.3% เป็น 490.60 หลังได้รับผลกระทบจากการขาดทุนในหุ้นธนาคารและคนงานเหมือง FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรปิดลดลง 0.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญของหุ้น HSBC หลังรายงานผลประกอบการตลอดทั้งปีไม่เป็นไปตามการคาดการณ์