ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย่อตัว ยอดค้าปลีกแกร่งเกินคาด

© Reuters.

Investing.com -- หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในวันอังคาร เนื่องจากข้อมูลจีนที่น่าผิดหวังและข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดในสหรัฐฯ กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

เมื่อเวลา 9:34 ET (13:34 GMT) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 159 จุดหรือ 0.4% ขณะที่ S&P 500 ลดลง 0.4% และ NASDAQ Composite ลดลง 0.2%

ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีนบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางของจีนเคลื่อนไหวอย่างน่าประหลาดใจ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยในวันอังคาร

ด้านสหรัฐอเมริกา ดัชนีหุ้นหลักเปิดบวกในวันจันทร์ โดย Nasdaq Composite ซึ่งนำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นดาวเด่น โดยปิดสูงขึ้น 1.1% ภาคส่วนนี้ได้รับการกระตุ้นในปีนี้จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐใกล้จะสิ้นสุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นในเดือนสิงหาคมและลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 ผลสำรวจของ Bank of America เปิดเผยเมื่อวันอังคาร โดยการจัดสรรเงินสดลดลงเหลือ 4.8% จาก 5.3%

ยอดค้าปลีก, รายได้จาก Home Depot อยู่ในโฟกัส

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะหยุดรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในเดือนกันยายนในการประชุมนโยบายครั้งหน้า แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่

ข้อมูล ค้าปลีก ล่าสุดของสหรัฐฯ สำหรับเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และอาจเป็นปัจจัยในการดำเนินการครั้งต่อไปของเฟด การอ่านรายปีเพิ่มขึ้น 3.17% เทียบกับความคาดหวังที่จะเพิ่มขึ้น 1.5% ในขณะที่ กำไรรายเดือน อยู่ที่ 0.7% เทียบกับความคาดหวัง 0.4% ค่าที่อ่านได้ตรงกับแนวโน้มของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวได้แม้ต้องเผชิญกับอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าเฟดอาจตัดสินใจว่ายังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อสงบอัตราเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ยังมีรายงานรายได้จากผู้ค้าปลีกชั้นนำหลายรายที่ครบกำหนดในสัปดาห์นี้ เริ่มต้นด้วย Home Depot (NYSE:HD) ซึ่งทำกำไรได้มากกว่าที่คาดไว้ แต่ยอดขายสาขาเดิมกลับลดลง รายงานดังกล่าวสามารถยืนยันความคาดหวังเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดที่สำคัญในฤดูใบไม้ร่วงนี้ หุ้นHome Depot เพิ่มขึ้น 1.9%

แม้จะมีการย่อตัว แต่ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ปรับปรุงบ้านก็รายงานว่ายอดขายสาขาเดิมประจำไตรมาสลดลงน้อยกว่าที่คาด เนื่องจากความต้องการได้รับการสนับสนุนจากชาวอเมริกันที่ใช้จ่ายในโครงการปรับปรุงบ้านขนาดเล็ก ท่ามกลางสัญญาณของตลาดที่อยู่อาศัยที่มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังประกาศแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

Tesla ปล่อยรถตัวถูก

ด้าน Tesla (NASDAQ:TSLA) ได้รับความสนใจ หลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเปิดตัวโมเดล S ซีดานและโมเดล X ที่ถูกกว่าสองรุ่นในสหรัฐอเมริกาโดยมีระยะการขับขี่ที่สั้นกว่า

Homebuilders D.R. Horton (NYSE:DHI) และ Lennar (NYSE:LEN) ซื้อขายล่วงหน้าโดดเด่น หลัง Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett (NYSE:BRKa) เข้าซื้อหุ้น 

Discover Financial (NYSE:DFS) ร่วงลงหลังจากการประกาศลาออกของผู้บริหารระดับสูง

น้ำมันดิบหดตัวในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในวันอังคาร หลังจากข้อมูล การผลิตภาคอุตสาหกรรม และ ยอดค้าปลีก ที่อ่อนแอในจีนแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอีกในเดือนที่แล้ว มีแนวโน้มที่จะลดความต้องการใช้น้ำมันดิบ

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1% เป็น 81.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 0.7% เป็น 85.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทองคำ ลดลง 0.5% สู่ $1,934

ธนาคารกลางของจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยไม่คาดคิดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อพยายามประคับประคองเศรษฐกิจที่กำลังดิ้นรน แต่ไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ {{ecl- ecl-554||ธนาคารกลาง}} ของรัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลัก 350 จุดเป็น 12%

ความสนใจจะหันไปที่ตลาดสหรัฐฯ ด้วยการเปิดตัวข้อมูลน้ำมันคงคลังจากกลุ่มอุตสาหกรรม American Petroleum Institute ในช่วงท้ายของเซสชัน เพื่อเป็นข้อมูลอย่างเป็นทางการของน้ำมันคงคลังจากEIA ของสหรัฐอเมริกาในวันพุธ

(Peter Nurse และ Oliver Gray มีส่วนร่วมจัดทำบทความฉบับนี้)