ข่าวสารทองคำประจำวัน (Fundamental Overview)
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง,รัสเซีย-ยูเครน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการซื้อโดยธนาคารกลาง ยังหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร และรายงานการประชุมประจำเดือน ธ.ค.ของเฟด หากข้อมูลยังสะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ปัจจัยดังกล่าวจะไม่สนับสนุนให้เฟดเร่งลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดหวัง จะส่งให้ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อ และจะกดดันราคาทองคำ
ข้อมูลเทคนิค (Technical Analysis)
ราคาทองโลกยังสามารถปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน หรือแถว $2,620ส่วนบริเวณแนวต้าน $2,635ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง หากสามารถยืนและปิดเหนือโซนดังกล่าว อาจดันราคาทองคำขึ้นไปที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 50วันหรือแถว $2,655 ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แต่หากแรงซื้อแผ่วทองยังไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้านดังกล่าว ทองมีแนวโน้มชะลอตัวโดยมีแนวรับสำคัญระดับ $2,620-$2,585 หากราคาทองคำทะลุลงไปอย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณขาย จากนั้นอาจลดลงต่อสู่ระดับต่ำสุดรายเดือนของเดือนพฤศจิกายนที่ $2,536 สำหรับทองไทยหากยังไม่หลุดต่ำกว่า 42,000 บาท ยังสามารถแบ่งเข้าซื้อได้บางส่วนได้โดยมีเป้าหมายแถว 42,500-42,700บาท
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,620 /2,610 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,635/2,655 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 42,450/42,350บาท
แนวต้าน 42,550/42,750บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50%