InfoQuest - ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (18 ก.ค.) โดยดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงนำตลาดปรับตัวลดลงที่ลบ 2% หลังถูกฉุดโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,993.29 จุด ลดลง 420.49 จุด หรือ -2.17% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,198.26 จุด ลดลง 11.37 จุด หรือ -0.35% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,418.25 จุด เพิ่มขึ้น 26.99 จุด หรือ +0.08%
หุ้นจีนปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนผิดหวังที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้ว่าขยายตัวรวดเร็วขึ้นจากระดับ 4.5% ในไตรมาส 1 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะขยายตัว 7.3%
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมในวันนี้ (18 ก.ค.) โดยระบุว่า คณะกรรมการ RBA ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่านโยบายการเงินของ RBA อยู่ในระดับที่มีความเข้มงวดมากเพียงพอ และกรรมการเล็งเห็นถึงความเสี่ยงที่ว่าสถานะการเงินที่ตึงตัวของภาคครัวเรือนจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหนักและทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ RBA ยังคงย้ำคำเตือนที่ว่า การใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินยังคงมีความจำเป็น เพื่อที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย พร้อมระบุว่าผลกระทบเป็นวงกว้างจากเงินเฟ้ออันเนื่องมาจากค่าเช่าที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งผลิตภาพด้านการผลิตที่อ่อนแอ และค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นนั้น ยังไม่ส่งสัญญาณบรรเทาลง
นักลงทุนญี่ปุ่นจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ เช่น ดุลการค้าและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาฤดูรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐสำหรับไตรมาส 2/2566
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับปิดสูงสุดในปี 2566 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.39% และดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้นมากที่สุดที่บวก 0.93%