Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในวันนี้ โดยเงินหยวนแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปี เนื่องจากตลาดกำลังประเมินผลกระทบของมาตรการควบคุมการส่งออกใหม่จากสหรัฐที่มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน
สหรัฐเตรียมดำเนินการกวาดล้างครั้งใหญ่ครั้งที่สามในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยตั้งเป้าไปที่บริษัทกว่า 140 แห่งด้วยมาตรการควบคุมการส่งออกใหม่ที่มุ่งลดการเข้าถึงชิปขั้นสูงและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นความท้าทายโดยตรงต่อเป้าหมายด้านเทคโนโลยีของจีน และก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินของภูมิภาค โดยเฉพาะค่าเงินหยวนของจีน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ความเชื่อมั่นต่อสกุลเงินภูมิภาคยังคงอ่อนแออยู่แล้ว เนื่องจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีถึง 100% ต่อสินค้าจากกลุ่มประเทศ BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) หากพวกเขาเคลื่อนไหวเพื่อทำลายค่าเงินดอลลาร์ผ่านการสร้างหรือสนับสนุนสกุลเงินทางเลือกใหม่ อีกทั้งก่อนหน้านี้ทรัมป์ยังเคยขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อจีนอีกด้วย
เงินหยวนร่วงต่ำสุดในรอบ 1 ปีจากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ
เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลง โดยคู่เงิน USD/CNY เพิ่มขึ้น 0.3% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2023
มาตรการควบคุมการส่งออกครั้งล่าสุดนี้คาดว่าจะเพิ่มความท้าทายให้กับความพยายามของจีนในการผลักดันการพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเงินหยวนของนักลงทุนลดลง
ตลาดทั่วภูมิภาคกำลังจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มเติมหรือการตอบโต้ซึ่งเพิ่มความผันผวนในตลาดเป็นประเด็นสำคัญ
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจจีนก็อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยคู่เงิน AUD/USD ยังคงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือน แต่ตลาดก็ยังต้องให้ความสนใจกับข้อมูล GDP ประจำไตรมาสที่สามของออสเตรเลียที่มีกำหนดการณ์จะประกาศในวันพุธนี้
เงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันสกุลเงินเอเชียเพิ่มเติม
สกุลเงินเอเชียยังคงเผชิญแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันถึงแปดสัปดาห์ก่อนจะลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ความคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในจังหวะช้าลงและโอกาสที่เงินเฟ้อจะยังคงสูงก็เป็นปัจจัยสนับสนุนเงินดอลลาร์เช่นกัน
ดัชนีดอลลาร์ ปรับขึ้น 0.1% ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ก็ขยับขึ้น 0.1%
คู่เงิน USD/KRW ของเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ นั้นยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยเงินเฟ้อ CPI ของเกาหลีใต้ในเดือนพฤศจิกายนออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้มีโอกาสที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเพิ่มเติม
คู่เงิน USD/JPY ของเยนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่คู่เงิน USD/TWD ของดอลลาร์ไต้หวันเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนคู่เงิน USD/INR ของรูปีอินเดียยังคงทรงตัว
คู่เงิน USD/PHP ของเปโซฟิลิปปินส์ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักที่ 58.685 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
ฟิลิปปินส์ยังได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2024 ลงเหลือ 6.0%-6.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 7% โดยคณะกรรมการรัฐบาลระบุว่าเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทั้งในประเทศและทั่วโลก นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยของเงินเปโซในปี 2024 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 57.00–57.50 ต่อดอลลาร์ จากการคาดการณ์เดิมที่ 56.00–58.00 ต่อดอลลาร์