โดย Ambar Warrick
Investing.com -- หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ทรงตัวในกรอบแคบวันจันทร์ เนื่องจากตลาดรอสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินจากคำแถลงของสมาชิกเฟดหลาย ๆ คน ในสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นจีนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากแนวโน้มที่รัฐบาลจะใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีน เพิ่มขึ้นประมาณ 1% หลังจากที่ธนาคารกลาง คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี LPR ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะสร้างความผิดหวังให้กับเทรดเดอร์บางรายที่หวังว่าจะมีการปรับลดลงมากกว่านี้ แต่ก็ยังบ่งชี้ว่าปักกิ่งตั้งใจที่จะรักษานโยบายการเงินให้ผ่อนคลายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
กำไรในตลาดหุ้นจีนกระจายไปยังฮ่องกงและไต้หวัน โดยดัชนี ฮั่งเส็ง และ Taiwan Weighted เพิ่มขึ้น 0.7% และ 0.4% ตามลำดับ ความเคลื่อนไหวของจีนเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่รัฐบาลย้ำแผนการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้เป็นลางดีสำหรับตลาดเอเชียในวงกว้างขึ้น แต่สัญญาณเศรษฐกิจที่มาจากจีนกลับยังคงไม่แน่นอน แม้ว่าจีนจะผ่อนคลายข้อจำกัดการต่อต้านโควิดส่วนใหญ่เมื่อต้นปีนี้ก็ตาม
ตลาดเอเชียอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบในวันจันทร์โดยเทรดเดอร์เทขายเล็กน้อยก่อนการแถลงจากสมาชิกเฟดในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ตลาดยังให้ความสนใจกับ บันทึกรายงาน การประชุมเดือนกุมภาพันธ์ของเฟด ซึ่งคาดว่าจะย้ำถึงนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเอเชียอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเทรดเดอร์กลัวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจดึงเงินทุนออกจากภูมิภาค
ตลาดหุ้น มาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ ขึ้นนำการขาดทุนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันจันทร์ โดยปรับลดลง 0.3% ขณะที่ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นซื้อขายไซด์เวย์
ความเชื่อมั่นต่อตลาดเอเชียยังถูกบั่นทอนจากความกลัวว่าความตึงเครียดจะทวีความรุนแรงขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 2 ลูกตกลงสู่ทะเลใกล้กับชายฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น
ถึงกระนั้น ดัชนีKOSPI ของเกาหลีใต้ก็เพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากประเทศนี้น่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในจีน
ดัชนี Nifty 50 และ BSE Sensex 30 ของอินเดียปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในประเทศจะจำกัดการเพิ่มขึ้นของกำไรก็ตาม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณว่าจะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นส่งผลด้านลบสำหรับหุ้นของประเทศ