Investing.com - ราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อยในตลาดเอเชียวันนี้ แต่ยังมีแนวโน้มที่ดีในสัปดาห์นี้หลังจาก OPEC+ ชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิต ในขณะที่โอกาสที่อุปทานในสหรัฐอาจหยุดชะงักก็ช่วยสนับสนุนตลาด
ตลาดน้ำมันอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 นั้นยังช่วยจุดประกายการปรับตัวขึ้นอย่างกว้างขวางในตลาดการเงิน
ความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลางทำให้นักลงทุนรักษาความเสี่ยงในราคาน้ำมันไว้เช่นกัน เนื่องจากอิสราเอลยังคงโจมตีฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ต่อไปในกาซาและบางส่วนของเลบานอน
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคมลดลง 0.3% มาเป็น 75.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.3% มาเป็น 71.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 11:00 น. (GMT+7) ซึ่งทั้งสองสัญญาปรับตัวขึ้นระหว่าง 3% ถึง 4% ในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันมีแรงหนุนจากการชะลอการเพิ่มการผลิตของ OPEC+
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนตลาดน้ำมันในสัปดาห์นี้คือการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ระบุว่าจะชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิตที่จะเริ่มในเดือนธันวาคมออกไป
กลุ่มได้ลดการผลิตลงเกือบ 6 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนราคา และการลดการผลิตเหล่านี้จะยังคงดำเนินต่อไปนานขึ้น
ความระมัดระวังต่อพายุเฮอริเคนราฟาเอลก็ช่วยหนุนราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้เช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการด้านพลังงานหลายรายหลายรายได้อพยพออกจากพื้นที่ในอ่าวเม็กซิโกขณะที่พายุเคลื่อนผ่านภูมิภาค
จับตากระตุ้นเศรษฐกิจจีนจากการประชุม NPC
ตลาดน้ำมันกำลังจับตาดูการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ของจีน ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
การประชุมนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์นี้และคาดว่าจะสิ้นสุดในวันนี้
ปักกิ่งได้ประกาศมาตรการทางการเงินและการคลังในเดือนที่ผ่านมาหลายรายการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การใช้จ่ายด้านการคลังเพิ่มเติมจะต้องได้รับการอนุมัติจาก NPC ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้จ่ายใหม่อย่างน้อย 10 ล้านล้านหยวน (1.6 ล้านล้านดอลลาร์) จะถูกอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกดีขึ้น