โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเช้าวันอังคารในตลาดเอเชีย เนื่องจากมีข่าวว่าสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) บางรายพิจารณาคว่ำบาตรต่อการใช้น้ำมันของรัสเซีย และการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มความกระวนกระวายใจเล็กน้อยในตลาด
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 2.42% เป็น 118.42 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 12:26 น. ET (4:26 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบWTI เพิ่มขึ้น 2.33% เป็น 112.53 ดอลลาร์
สัญญาทั้งสองฉบับปิดลดลงมากกว่า 7% ในวันจันทร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานเพิ่มเติมที่ยังคงส่งผลกระทบต่อตลาด
ตลาดน้ำมัน “ยังคงได้เปรียบเนื่องจากข้อจำกัดในการส่งออกของรัสเซียยังคงดำเนินต่อไป” แดเนียล ไฮนส์ และโซนี่ คูมารีนักวิเคราะห์จาก Australia and New Zealand Banking Group Ltd. กล่าวในหมายเหตุ นั่นสะท้อนให้เห็นภาวะตลาดที่มีเส้นโค้งไต่ระดับสูงขึ้น (backwardated) พวกเขากล่าวเสริมว่านั่นหมายถึงรูปแบบ bullish ที่ราคาซื้อขายสูงไกลออกไป
รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปยังคงแยกตัวเรื่องว่าจะเข้าร่วมกับสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียหรือไม่ บางประเทศ รวมทั้งเยอรมนี กล่าวแย้งว่ากลุ่มนี้พึ่งพาอุปทานของรัสเซียมากเกินไป
"มาตรการการแบนอุปทานของรัสเซียอาจจะกลายเป็นนโยบาย เนื่องจากประเทศในสหภาพยุโรปจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งแบนดังกล่าว อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าการออกคำสั่งแบนยังคงอยู่ในหัวข้อหารือตลอดเวลาเพราะถือว่าเป็นหัวข้อการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ" นักวิเคราะห์ ธนาคาร Commonwealth ของออสเตรเลีย (OTC:{{941828) |CMWAY}}) กล่าวในหมายเหตุ
ในขณะเดียวกัน ซาอุดีอาระเบียเตือนว่าจะไม่รับผิดชอบต่อการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันทั่วโลกหลังจากการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของประเทศโดยฮูตีสกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับกับอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธและโดรนที่โรงงานผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลผลิตโรงกลั่นลดลงชั่วคราว
นักลงทุนกำลังรอผลรายงาน ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ซึ่งจะครบกำหนดในท้ายวันนี้