Investing.com - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากที่ลดลงในภูมิภาคเอเชียในวันพุธเนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าราคาทองคำที่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีลดความตึงเครียดลงเป็นโอกาสที่จะซื้อและเนื่องจากความต้องการในช่วงเทศกาลของประเทศอินเดียที่กำลังมาถึง
ทองฟิวเจอร์สสำหรับการจัดส่งในเดือนธันวาคมที่ตลาด Comex ใน New York Mercantile Exchange เพิ่มขึ้น 0.33% มาอยู่ที่ 1,337.04 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ อินเดียและจีนแย่งตำแหน่งผู้ซื้อและผู้นำเข้าทองคำชั้นนำของโลก
ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าจุดคุ้มทุนในวันอังคารเนื่องจากการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มทำให้หุ้นทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่สองติดต่อกัน
การฟื้นตัวของหุ้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกัน ทำให้ความต้องการทองคำลดลงเนื่องจากนักลงทุนเพิกเฉยต่อคุกคามใหม่จากเกาหลีเหนือหลังจากที่สหประชาชาติได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆ โดยจำกัด การส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเกาหลีเหนือและจำกัดการนำเข้าสิ่งทอจากประเทศเกาหลีเหนือ
เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ นาย ฮัน แท ซอง กล่าวในการประชุมในกรุงเจนีวาว่า “มาตรการที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะทำให้สหรัฐฯประสบความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์”
นอกจากนี้ราคาทองคำยังคงโดนกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯที่กำหนดไว้ในวันที่ 20 กันยายน
ทองมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทน เช่น ทองคำแท่ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ต่างไม่ให้ความสำคัญการปรับตัวลงของราคาทองในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลได้บ่งชี้ว่ามีกิจกรรมการซื้อทองคำมีเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าความต้องการทองคำยังคงได้รับแรงหนุน
จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากล่าวว่า นักเก็งกำไรเพิ่มปริมาณการถือครองสถานะซื้อสุทธิในทองคำแตะระดับ 245,300 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 เดือน