InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) โดยดอลลาร์แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยน เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงอดกลั้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตรงข้ามกับธนาคารกลางอื่น ๆ ที่ผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่า
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.2% แตะที่ระดับ 105.796
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 159.54 เยนในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) จาก 158.80 เยนในวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.), ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 0.8942 ฟรังก์สวิส จาก 0.8909 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 1.3699 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3689 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0695 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0711 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี และปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2647 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.2671 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี
กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือนในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางการจ้างงานที่ดีดตัวขึ้น แต่แรงกดดันด้านราคาลดลงอย่างมาก ซึ่งเพิ่มความหวังว่าการชะลอตัวของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือน จากระดับ 54.5 ในเดือนพ.ค.
เธียร์รี่ วิซมาน นักยุทธศาสตร์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยระดับโลกที่แมคควอรีในนิวยอร์กมองว่า เงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในที่สุด
เงินเยนยังคงถูกกดดัน หลังธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จะยังไม่ปรับลดโครงการซื้อพันธบัตร โดยจะรอจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนก.ค.เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าว