Investing.com - ราคาน้ำมันปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางที่เชื่อมโยงกับการลอบก่อเหตุวินาศกรรมเรือบรรทุกน้ำมัน และท่อขนส่งน้ำมันของประเทศซาอุดิอาระเบีย
ราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น 0.7% อยู่ที่ $62.45 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (04:20 GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 0.6% เท่ากับ $72.22 ต่อบาร์เรล
ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น
นาลอัลฟอนโซ เอสปาร์ซา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก OANDA ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "ความขัดแย้งในตะวันออกกลางเริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น" ขณะที่สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะสร้างแรงกดดันอิหร่าน และอพยพสถานทูตอเมริกาออกจากประเทศอิรักเนื่องด้วยความกังวลด้านความปลอดภัย"
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ก็ได้รายงานปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น แต่ข้อมูลดังกล่าวถูกกลบด้วยข่าววิกฤตการณ์ทางฝั่งตะวันออกกลางเสียโดยมาก
สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบเพื่อการพาณิชย์ของสหรัฐฯ (ไม่รวมปริมาณน้ำมันเพื่อการสำรองเชิงยุทธศาสตร์) ในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมา 5.4 ล้านบาร์เรล ต่างจากที่คาดไว้ว่าจะลดลงไป 800,000 บาร์เรล
ส่วนสำนักงานพลังงานสากลประจำกรุงปารีส (IEA) ก็ได้ระบุไว้ในรายงานประจำเดือนว่า สำนักงานพลังงานสากลคาดว่าความต้องการน้ำมันจากกลุ่มโอเปกในปีนี้น่าจะลดลงเหลือเพียงนิดเดียว เนื่องจากกำลังการผลิตของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยชดเชยปริมาณน้ำมันส่งออกของอิหร่านและเวเนซูเอลาที่ลดลงได้
และสำนักงานพลังงานสากลก็คาดว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2019 ในขณะที่คาดว่าปีนี้กำลังการผลิตน้ำมันและสิ่งกลั่นของสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียวจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวันเลยทีเดียว