InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (7 ก.ย.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 90 ดอลลาร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันอ่อนแอลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 86.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 68 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 89.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
เดนนิส คิสเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท BOK Financial กล่าวว่า ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่พุ่งทำนิวไฮ และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ขยายตัวเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ขณะที่จีนเปิดเผยยอดส่งออกลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนลดลง 8.8% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากอุปสงค์สินค้าจีนในต่างประเทศชะลอตัวลง ส่วนยอดนำเข้าลดลง 7.3% ในเดือนส.ค.
อย่างไรก็ดี ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเดือนส.ค.ของจีนเพิ่มขึ้น 20.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 30.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 379 ล้านตัน
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ระดับ 105.0588 เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 5.6 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 840,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัว