ข่าวเด่น
เสนอซื้อเสนอขาย
ประเภทตราสารทั้งหมด

โปรดลองค้นหาใหม่อีกครั้ง

Investing Pro 0
โอกาสสุดท้ายสำหรับมหกรรมลดราคา Cyber Monday! ประหยัดตอนนี้กับ รับส่วนลด 60%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (3 - 7 ส.ค.)

เผยแพร่ Aug 02, 2020 18:19
บันทึกแล้ว ดู รายการที่ได้บันทึก.
ได้บันทึกบทความนี้ไว้เรียบร้อยแล้วใน รายการที่ได้บันทึก ของคุณ
 
 
GM
+2.44%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
CAT
+2.41%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
DIS
-0.15%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
AAPL
+0.68%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
AMZN
+0.64%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
CLX
+0.38%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 

โดย Noreen Burke

Investing.com -- ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

  1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ

ตลาดแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์นี้ และคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.65 ล้านตำแหน่ง จากเดือนมิถุนายนที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านตำแหน่ง โดยตัวเลขครั้งนี้จะรวบรวมข้อมูลจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกลับมาประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งในบางรัฐ

ทว่านักวิเคราะห์จาก ING ได้ออกมาเตือนว่าถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานจะมีแนวโน้มสูงขึ้นนับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนและต้นเดือนกรกฎาคม แต่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานน่าจะสูงขึ้นเพียง 750,000 ตำแหน่งเท่านั้น

ตัวเลขการจ้างงานจะรายงานออกมาหนึ่งวันให้หลังจากการรายงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกก็สูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ส่วน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ก็สูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมด้วย

  1. ยังไม่มีวี่แววการสรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากสภาสหรัฐ

สภาสหรัฐยังคงไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการออกมาตรการครั้งใหม่ เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจจากการระบาดที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันมากกว่า 150,000 รายและส่งผลให้เกิดการทรุดตัวลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สมัยวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่

เมื่อวันศุกร์ทางรัฐบาลได้ยุติการเพิ่มเงินชดเชยให้แก่ผู้ว่างงานในสหรัฐเป็นมูลค่า $600 ต่อสัปดาห์ หลังจากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังไม่มีมติว่าจะขยายเวลาการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว

ทั้งนี้ส.ส.ฝั่งเดโมแครตมีความต้องการที่จะขยายเวลาการให้เงินชดเชยรายสัปดาห์ไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ฝั่งรีพับลิกันชี้ว่าเงิน $600 อาจเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ประชาชนไม่ยอมกลับไปทำงานและจึงเสนอให้ลดการจ่ายเงินเหลือ $200 ต่อสัปดาห์ไปจนกว่าที่สหรัฐจะสามารถกำหนดนโยบายเพื่อชดเชยเงินเดือน 70% ให้แก่พนักงานที่ถูกปลดออกจากงานได้

  1. การรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สอง

การรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ออกมาดีเกินคาดมากกว่าต่ำกว่าคาด โดยข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า ขณะนี้ได้มีบริษัทประมาณ 250 กว่าบริษัททั้งในสหรัฐและยุโรปที่ออกมารายงานผลประกอบการและบริษัทในดัชนี S&P 500 ราว 80% มีผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่บริษัทยุโรปมีผลประกอบการที่ดีเกินคาดราว 65%

แม้บริษัทภาคอุตสาหกรรมอย่าง General Motors (NYSE:GM) และ Caterpillar (NYSE:CAT) ได้รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดอย่างมาก แต่กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีโดยเฉพาะ Amazon (NASDAQ:AMZN) ก็ได้รายงานผลกำไรครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่วน Facebook (NASDAQ:FB) ผลประกอบการออกมาดีเกินคาดและยอดขาย iPhone -อง Apple (NASDAQ:AAPL) ก็ดีเกินคาดเช่นกัน

ผลประกอบการในสัปดาห์นี้อาจไม่ส่งผลต่อทิศทางตลาดมากเท่าไรนัก แต่จะมีหลายบริษัทที่น่าจับตาได้แก่ Disney (NYSE:DIS), Berkshire Hathaway (NYSE:BRKa), Tyson Foods (NYSE:TSN), Clorox (NYSE:CLX) และ CVS (NYSE:CVS) เป็นต้น

  1.  ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง

เมื่อช่วงครึ่งหลังของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้เผยว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีของสหรัฐทรุดตัวลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 32.9% ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแบบอายุ 3 ปี 5 ปี และ 20 ปีดิ่งลงเป็นประวัติการณ์ และกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลขณะนี้ก็ใกล้ลดลงต่ำกว่า 1% แล้ว

สัปดาห์ที่แล้วเฟดได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐกับทิศทางของวิกฤตโควิด-19 ด้วยคำกล่าวที่ว่า "ทิศทางของเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาด"

ทางด้านคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดก็ได้เน้นย้ำคำมั่นที่จะใช้ "เครื่องมือทั้งหมด" เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจและคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับศูนย์ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการระบาด

  1. คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม

ธนาคารกลางอังกฤษ จะรายงานผลการประชุมและประเมินอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าไม่น่าจะมีการเพิ่มวงเงินสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 1 แสนล้านปอนด์ (1.31 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) ดังที่เคยได้ประกาศไว้ในเดือนมิถุนายนแต่อย่างใด

ผู้ว่าการธนาคารอังกฤษ นายแอนดรูว์ ไบลีย์ น่าจะออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับมุมมองของธนาคารกลางต่อการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ เนื่องจากธนาคารกลางอังกฤษเป็นหนึ่งในไม่กี่ธนาคารที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบและนักวิเคราะห์ก็คาดว่าจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยอีกไปจนถึงสิ้นปี 2021

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดูเหมือนว่าจะชะลอตัวลง ขณะที่สหราชอาณาจักรเองก็ต้องสรุปข้อตกลงทางการค้าร่วมกับสหภาพยุโรปให้ทันก่อนสิ้นสุดช่วงเปลี่ยนผ่านของ Brexit ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ด้วย

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (3 - 7 ส.ค.)
 

บทความที่เกี่ยวข้อง

แสดงความคิดเห็น

เกณฑ์การแสดงความคิดเห็น

เราสนับสนุนให้ท่านได้ใช้ช่องทางการแสดงความคิดเห็นนี้เพื่อสื่อสารสัมพันธ์กับผู้ใช้เว็บไซต์อื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนในทัศนคติและสอบถามข้อสงสัยกับผู้เขียนและสอบถามซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การสื่อสารสัมพันธ์นี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยที่เราทุกคนต้องการและคาดหวังดังนี้กรุณาพึงระลึกในข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้:  

  • มีเนื้อหาสาระ การสนทนาควรมีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ
  • เอาใจใส่และตรงประเด็น กรุณาโพสต์ในเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องที่กำลังอภิปราย
  • ให้เกียรติ แม้ในการแสดงความคิดเห็นเชิงลบก็ตามควรต้องกระทำในลักษณะสร้างสรรค์และสุภาพ
  • ใช้สไตล์การเขียนมาตรฐานทั่วไป ที่รวมถึงการใช้เครื่องหมายวรรคตอนและตัวอักษรใหญ่เล็ก
  • หมายเหตุ: ข้อความและลิงค์ประเภทสแปมและ/หรือเพื่อการส่งเสริมการขายที่ปรากฎในการแสดงความคิดเห็นจะถูกลบทิ้ง
  • หลีกเลี่ยงการลบหลู่ การให้ร้ายผู้อื่น และการกล่าวโจมตีโดยส่วนตัว ที่กระทำต่อผู้เขียนเนื้อหาในเว็บหรือต่อผู้ใช้เว็บไซต์คนอื่น
  • เฉพาะภาษาไทยเท่านั้น สามารถแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทยเท่านั้น

ผู้ที่โพสต์เนื้อหาข้อความสแปมหรือใช้เว็บไซต์นี้ไปในทางผิดจะถูกลบรายชื่อทิ้งจากเว็บไซต์และถูกปิดกั้นการลงทะเบียนเป็นสมาชิกในอนาคตซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของเว็บไซต์ Investing.com

เขียนบรรยายความคิดของคุณได้ที่นี่
 
คุณแน่ใจว่าต้องการลบกราฟนี้?
 
โพสต์
และโพสต์บน :
 
แทนที่กราฟที่แนบมาด้วยกราฟใหม่ ?
1000
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของคุณถูกระงับในขณะนี้เนื่องจากมีรายงานเชิงลบจากผู้ใช้เว็บไซต์ ผู้ดูแลเพจของเราจะทบทวนสถานะของคุณ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ ความคิดเห็นของคุณทั้งหมดจะอยู่ระหว่างการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ ดังนั้นอาจใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะปรากฎบนเว็บไซต์ของเรา
 
คุณแน่ใจว่าต้องการลบกราฟนี้?
 
โพสต์
 
แทนที่กราฟที่แนบมาด้วยกราฟใหม่ ?
1000
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของคุณถูกระงับในขณะนี้เนื่องจากมีรายงานเชิงลบจากผู้ใช้เว็บไซต์ ผู้ดูแลเพจของเราจะทบทวนสถานะของคุณ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
เพิ่มกราฟไว้ในคอมเมนต์
ยืนยันการบล็อก

คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการบล็อก %USER_NAME%?

เมื่อทำการบล็อก คุณและ %USER_NAME% จะไม่สามารถเห็นโพสต์ของแต่ละฝ่ายบนเว็บไซต์ Investing.com ได้

%USER_NAME% ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Block List ของคุณแล้ว

เนื่องจากคุณเพิ่งยกเลิกการบล็อกบุคคลนี้ คุณต้องรอ 48 ชั่วโมงก่อนการบล็อกอีกครั้ง

รายงานความคิดเห็นนี้

ฉันรู้สึกว่าความคิดเห็นนี้

ความคิดเห็นได้รับการติดธงเตือน

ขอบคุณ!

รายงานของคุณได้ถูกส่งไปยังผู้ดูแลบอร์ดของเราเพื่อการทบทวน
สมัครสมาชิกด้วย Google
หรือ
สมัครสมาชิกด้วยอีเมล