รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้ ( 14 ก.ค.)

เผยแพร่ 14/07/2563 14:33
อัพเดท 14/07/2563 14:37

โดย Detchana.K

Investing.com - นับเป็นประเด็นที่ร้อนแรงมาตั้งแต่เมื่อวานจากกรณีทหารอียิปต์ที่เดินทางเข้ามาในไทย และเข้าพักในโรงแรม จ.ระยองและเดินทางไปยังห้างสรรพค้าสองแห่งในจังหวัด และกรณีลูกคณะทูต ซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีประวัติของผู้ป่วยเดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาพร้อมกับครอบครัวที่เป็นคณะทูต ก่อนจะเข้าพักที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท สภาอุตสหกรรมการท่องเที่ยวบอกว่า ข่าวที่ออกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้ผู้ประกอบการที่พักในจังหวัดระยองเช่นที่เกาะเสม็ดและที่พักตามชายฝั่ง เริ่มได้รับผลกระทบเรื่องการยกเลิกที่พักแล้ว ด้านหอการค้าไทยเตรียมประเมินตัวเลขผลกระทบทางเศรษฐกิจพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเปิดลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกันว่าจะมากน้อยแค่ไหน ส่วนตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบอย่างไรจากเรื่องนี้ มาติดตามพร้อมประเด็นสำคัญที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้

1.SET INDEX อาจไม่เห็น 1,400 จุดในสัปดาห์นี้ เจอปัจจัยโควิดในประเทศกดดันซ้ำจากกรณีทหารอียิปต์

SET INDEX ( กดดูอัพเดตล่าสุด) มีปัจจัยลบกดดันจากทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจัยหลัก ยังคงมาจากสถานการณ์ COVID-19 ทั้งในและต่างประเทศ แม้จะพอมีปัจจัยบวกจากการพัฒนาวัคซีนที่ได้ fast track จาก อย. สหรัฐฯ (FDA) เพื่อผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งจะส่งผลทำให้การพัฒนาวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นก็ตาม แต่สถานการณ์ล่าสุดก็ยังน่าวิตก ฟลอริดาพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงถึง 15,299 ราย สูงที่สุดใน 50 รัฐของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งปิดสถานประกอบการบางประเภทอีกครั้ง หลังจากยอดติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มาที่ไทยวันนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แจงไทม์ไลน์กรณีคนต่างชาติติดเชื้อใหม่ 2 ราย คือ กรณีทหารอียิปต์ที่ตอนนี้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว และก่อนหน้านี้ได้เดินทางออกจากที่พักคือโรงแรมในจังหวัดระยอง ไปยังห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในระยอง และกรณีของลูกคณะทูต ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย แล้วพบว่าป่วยปอดอักเสบ ซึ่งครอบครัวได้เดินทางเข้าพักที่คอนโดฯ ย่านสุขุมวิท

โดย ศบค. ระบุว่าต้องรอดูผล 14 วันก่อนจะพิจารณราว่าต้องกลับมา Lockdown หรือไม่ พร้อมเตรียมทบทวนมาตรการผ่อนคลายมาตรการกักตัวของบุคคลในคณะฑูต รวมทั้งชะลอการอนุญาติเดินทางเข้าไทยแบบผ่อนคลายมาตการ State Quarantine เพื่อทบทวนมาตรการควบคุมให้รอบคอบ

นักวิเคราะห์จาก บลจ. Asia Wealth Securities บอกว่าประเด็นดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อ Sentiment การลงทุนตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (13 ก.ค.) และประเมินว่าสัปดาห์นี้หุ้นไทยน่าจะไปไม่ถึง 1,400 จุด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงเล็งเห็น Downside มากกว่า Upside มองหุ้นได้ประโยชน์เป็นหุ้นกลุ่มถุงมือยางอย่าง (BK:STA) STGT

2. ทันไหมถ้าจะขึ้นรถขบวนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ?

หลังจากปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในฝั่งอเมริกา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในดัชนี S&P500 ปีนี้ โดยบวกขึ้นกว่า 18% ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เคลื่อนไหวในแดนลบ และมีเพียงแค่อีกสองกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (ปรับตัวขึ้น 14%) และผู้ให้บริการสื่อสาร (ปรับตัวขึ้น 5.9%)

ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ 1Q63 มากกว่า 70% ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดทั้งในแง่ของยอดขายและกำไร (Fig.1) สะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบจาก Covid-19 มีค่อนข้างจำกัด โดยยอดขายและ EPS เติบโตราวได้ 6.0% YoY และ 3.0% YoY อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ 2Q63 ที่จะเริ่มรายงานตั้งแต่สัปดาห์นี้ จะเห็นผลกระทบจากโรค COVID-19 ที่ชัดเจนขึ้น แต่เรายังเชื่อว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังคงมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีกว่าภาพรวมบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P500

นักวิเคราะห์จากหยวนต้าเองก็แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นสหรัฐ โดยเน้นไปยังกลุ่มของเทคโนโลยีหรือ ดัชนี NASDAQ “เมื่อราคาอ่อนตัว” ที่แนวรับแรกบริเวณ 10,207 จุด (ย่อตัวราว 4% จากระดับปัจจุบัน) แนวรับถัดไปบริเวณ 9,838 จุด (ย่อตัว 7.3% จากระดับปัจจุบัน) โดยเน้นเลือกกลุ่ม ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี และได้รับผลกระทบจาก Covid-19 จำกัด อย่างกลุ่ม Technologyและกลุ่ม Disruptive

กลุ่มนี้ได้ปัจจัยหนุนจาก 1) การปรับพฤติกรรมของผู้บริโภค (New Normal) เช่น Work from home ทำให้มีความต้องการอุปกรณ์ทางด้าน IT มากขึ้น 2) การปรับจาก Offline มาเป็น Online เช่น Cloud Computing เนื่องจาก Covid-19ได้บังคับให้บริษัทจำเป็นต้องปรับโครงสร้างมาด้านออนไลน์มากขึ้นทั้งในแง่ของการทำงาน และการเข้าถึงลูกค้า 3) การซื้อของออนไลน์ เช่น E-Commerce ซึ่งได้รับประโยชน์จากการ lockdown ทำให้คนจำเป็นต้องหันมาซื้อของออนไลน์มาก ขึ้น 4) การพัฒนาวัคซีน หรือยารักษา Covid-19ที่คาดว่าจะจำหน่ายได้ในช่วงต้นปีหน้า

3.ราคาทองคำยังดูท่าทีจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมารอคาทองคำในตลาดโลกย่อตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงพักฐาน เพื่อรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐ สำหรับนักลงทุนแนะนำติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ รวมทั้งติดตามการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐ อาทิ Delta Air Lines, Citigroup, JPMorgan และ Wells Fargoรวมทั้งข่าวสารอื่นๆอย่างใกล้ชิด พร้อมระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากกระแสข่าวต่างๆ

แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐยังทำสาถิติสูงสุดใหม่ไม่เว้นแต่ละวัน คาดว่าขาลงของราคาทองคำจะอยู่ในกรอบจำกัดเท่านั้น นักวิเคราะห์ให้แนวต้านไว้ที่ 1,807- 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อัพเดตราคาทองคำ SPOT XAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot ล่าสุดได้ที่
https://th.investing.com/currencies/xau-usd

สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา>> สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด
https://th.investing.com/commodities/gold

ห้ามพลาด

♦เมื่อ Covid-19 กลับมา (13/07/2563)

♦สัญญาณเก็งกำไรในตลาดหุ้น

♦13 หุ้นดังไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็น “บุคคล” แม้แต่รายเดียว

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย