Investing.com - วอลล์สตรีทกำลังตั้งตารอผลประกอบการไตรมาสล่าสุดจากยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตชิป Nvidia โดยมีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการที่โดดเด่นจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของตลาดให้อยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน Apple มีรายงานว่ากำลังปลดพนักงาน และ Bitcoin ได้ร่วงลงทะลุระดับแนวรับที่สำคัญ
1. ผลประกอบการของ Nvidia
Nvidia (NASDAQ:NVDA) ซึ่งเป็นหุ้นยอดนิยมของตลาดเตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดในวันนี้ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้อาจมีความสำคัญในการกำหนดความเชื่อมั่นของตลาดในอนาคต
มูลค่าตลาดของ Nvidia เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากการครอบครองตลาดฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งขึ้นเป็น 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเคยกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในช่วงเดือนมิถุนายน
มูลค่าตลาดของบริษัทผลิตชิปรายนี้อยู่ที่ประมาณ 390 พันล้านดอลลาร์ก่อนการเปิดตัว AI แชทบอท ChatGPT เมื่อไม่ถึงสองปีที่ผ่านมา
ขนาดและตำแหน่งของ Nvidia ในฐานะตัวชี้วัดอุตสาหกรรมหมายความว่าผลประกอบการของบริษัท ซึ่งมีกำหนดการประกาศหลังตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการนั้น สามารถขับเคลื่อนตลาดทั้งหมดได้
บริษัทด้านการวิเคราะห์ ORATS ระบุว่าการกำหนดราคาออปชั่นแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าหุ้นของบริษัทจะเคลื่อนไหวประมาณ 9.8% ในวันพฤหัสบดี หนึ่งวันหลังจากที่รายงานผลประกอบการ
ด้วยมูลค่าตลาดของ Nvidia ความเคลื่อนไหวที่ 9.8% ของหุ้นจะเทียบเท่ากับมูลค่ากว่า 300 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของรายได้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทใด ๆ
LSEG คาดว่า Nvidia จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 112% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในไตรมาสที่สอง ซึ่งอยู่ที่ 28.68 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับปรุงแล้วอาจลดลงมากกว่า 3 จุดเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 75.8% จากไตรมาสแรก เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ตลาดยังคงต้องติดตามว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ถึงสองเท่า (หากเกิดขึ้น) จะเพียงพอที่จะทำให้ตลาดประทับใจหรือไม่ เนื่องจากนักลงทุนมักจะมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ผลประกอบการไม่สอดคล้องกับมูลค่าที่สูงหรือการใช้จ่ายที่มหาศาลใน AI
2. หุ้นฟิวเจอร์สทรงตัว
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอผลประกอบการไตรมาสล่าสุดจากยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตชิปอย่าง Nvidia
ณ เวลา 04:00 ET (08:00 GMT) ดัชนี ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 35 จุด หรือ 0.1% S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 2 จุด หรือ 0.1%, ในขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ขยับลง 3 จุด หรือ 0.1%
ผลประกอบการจาก Nvidia ที่ได้รับความสนใจในฐานะบริษัทด้าน AI ยอดนิยมนั้นมีกำหนดการจะประกาศหลังตลาดปิด [ดูข้อมูลข้างต้น] และอาจกำหนดทิศทางว่าความกระตือรือร้นของนักลงทุนที่มีต่ออุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์นั้นจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน
นอกเหนือจาก Nvidia แล้ว นักลงทุนต้องให้ควสามสนใจกับผลประกอบการรายไตรมาสจาก Bath & Body Works (NYSE:BBWI) Foot Locker (NYSE:FL) และ Kohl’s (NYSE:KSS) ก่อนตลาดเปิด ขณะที่ Salesforce (NYSE:CRM) จะรายงานผลประกอบการภายหลังในวันเดียวกัน
ในด้านอื่น ๆ หุ้นของ Nordstrom (NYSE:JWN) เพิ่มขึ้นอย่างมากก่อนตลาดเปิด หลังจากบริษัทค้าปลีกรายนี้มีผลประกอบการที่เกินความคาดหมายในไตรมาสที่สอง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากงาน Anniversary Sale ที่สำคัญ
หุ้นของ Ambarella (NASDAQ:AMBA) บริษัทผู้พัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ พุ่งขึ้นกว่า 18% หลังจากตลาดปิด เนื่องจากแนวโน้มรายได้ที่สดใสในไตรมาสที่สาม ขณะที่ PVH (NYSE:PVH) เจ้าของแบรนด์ Calvin Klein ร่วงลงมากกว่า 7% หลังยอดขายในไตรมาสที่สองลดลง
3. Apple ปลดพนักงานก่อนเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่
หนึ่งวันหลังจากที่ Apple (NASDAQ:AAPL) ประกาศว่าหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินที่ดำรงตำแหน่งมายาวนานอย่าง Luca Maestri จะลาออก Bloomberg ก็ได้รายงานว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยียังได้ปลดพนักงานประมาณ 100 ตำแหน่งในกลุ่มบริการดิจิตอล เนื่องจากการจัดลำดับความสำคัญภายในบริษัทเปลี่ยนไป
การปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในทีมที่ทำงานเกี่ยวกับบริการร้านหนังสือของ Apple ซึ่ง Bloomberg รายงานความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็นกรณีที่หายากของการปลดพนักงานโดยบริษัท ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Apple มักจะรักษาพนักงานของตนไว้ แม้จะมีการปลดพนักงานจำนวนมากในบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ อื่น ๆ ก็ตาม
Apple มีกำหนดจะเปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดในช่วงต้นเดือนกันยายน และจะเริ่มเปิดตัวฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์หลายอย่างในอุปกรณ์ของตนด้วย
เหตุการณ์นี้จะถือเป็นการเริ่มต้น "การอัพเกรดครั้งใหญ่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์ของ Apple “เพราะ AI นั้นอยู่ใกล้แค่หน้าประตูแล้ว” นักวิเคราะห์จาก Wedbush กล่าวในบันทึก
“ในมุมมองของเรา Apple อาจขาย iPhone ได้เกิน 240 ล้านเครื่องในปีงบประมาณ 2025 เมื่อรอบการอัพเกรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้มีผล” นักวิเคราะห์กล่าวต่อ “จีนยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของการเติบโตสำหรับ Apple และตอนนี้ภูมิภาคสำคัญนี้กำลังจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นอีกครั้งโดยเริ่มจาก iPhone 16 ซึ่งจะเข้าสู่ปีงบประมาณ 2025”
4. Bitcoin ยังคงซบเซา
Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกร่วงลงในวันนี้ ทำให้ขาดทุนเพิ่มเติมจากเซสชันก่อนหน้า และยังร่วงลงทะลุต่ำกว่าระดับแนวรับที่สำคัญที่ 60,000 ดอลลาร์อีกด้วย
ณ เวลา 04:00 ET Bitcoin ลดลง 6.7% มาเป็น 58,806.0 ดอลลาร์ ลดลงมากกว่า 3% ในสัปดาห์นี้และมากกว่า 11% ในเดือนนี้
Whale Alert ซึ่งเป็นบัญชี X ที่ติดตามธุรกรรมคริปโตขนาดใหญ่โดยใช้ข้อมูล on-chain กล่าวว่ามีการโอนโทเค็น Bitcoin ประมาณ 30,000 เหรียญ มูลค่า 1.88 พันล้านดอลลาร์ จากกระเป๋าเงินเย็นไปยังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต Binance เมื่อวันอังคาร
การโอนย้ายดังกล่าวได้ทำให้เกิดความเป็นไปได้ของการขายจำนวนมาก เนื่องจากมันแสดงให้เห็นว่ามีการย้าย Bitcoin จำนวนมากเข้าสู่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน
รายงานจากบริษัทวิจัยบล็อกเชน Glassnode ยังแสดงให้เห็นว่ากระแสเงินทุนสุทธิที่สะพัดเข้ามาใน Bitcoin ได้ "ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน" ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับการเปิดตัวกองทุน ETF แบบสปอตของ Bitcoin ได้ลดลง
นอกจากนี้ยังอาจมีองค์ประกอบทางการเมืองอีกที่ทำให้ Bitcoin อ่อนแอในช่วงนี้ เนื่องจากการแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเข้มข้นขึ้นมากเมื่อเทียบกับไม่กี่เดือนก่อน หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนถอนตัวจากการลงสมัครเลือกตั้ง
ทรัมป์ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้สมัครที่สนับสนุนคริปโตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมาถึง ขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครต ยังไม่ได้แสดงทัศนะคติสาธารณะเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ แต่รัฐบาลของไบเดนนั้นมีแนวโน้มที่จะเน้นไปในทางการควบคุมอย่างเข้มงวดมากกว่า
5. สินค้าคงคลังน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลง
ราคาน้ำมันดิบขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ แม้ว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันของสหรัฐฯ จะลดลงอย่างมากก็ตาม
ณ เวลา 04:00 ET น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% มาเป็น 75.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะ น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% อยู่ที่ 78.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรในอุตสาหกรรม ได้แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 23 สิงหาคม มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงที่ 3 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างต่อเนื่องของสินค้าคงคลังน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่น
หากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนั้นได้รับการยืนยันโดย ข้อมูลสินค้าคงคลังอย่างเป็นทางการ ที่มีกำหนดการเปิดเผยในวันนี้ สินค้าคงคลังในสหรัฐฯ ก็จะลดลงที่ 8 จาก 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความหวังว่าความต้องการในสหรัฐฯ นั้นยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงนี้ก็ตาม
แต่เมื่อเข้าสู่เดือนกันยายน ฤดูกาลการเดินทางที่คึกคักก็จะสิ้นสุดลง ซึ่งอาจทำให้ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ลดลงได้
ราคาน้ำมันลดลงมากกว่า 2% ในวันอังคาร สิ้นสุดการทำกำไรติดต่อกัน 3 วันที่มากกว่า 7% ท่ามกลางความกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก