อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในวันนี้หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการลงจอดทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นอย่างมาก การพัฒนานี้ยังลดความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนหน้า

กระทรวงพาณิชย์รายงานว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นการฟื้นตัวที่โดดเด่นจากการลดลง 0.2% ในเดือนมิถุนายน ตัวเลขนี้สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3%

นอกจากนี้ จํานวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 227,000 คน ซึ่งต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ 235,000 คน และต่ํากว่าตัวเลขที่แก้ไขในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 233,000 คน

ข้อมูลนี้มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นที่ถูกบ่อนทําลายจากรายงานการจ้างงานที่อ่อนแออย่างไม่คาดคิดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมแนวโน้มเงินเฟ้อที่ดีขึ้นดังที่เห็นได้จากรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์นี้

หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Bok Financial (แนสแด็ก:BOKF) ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของข้อมูลต่อการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ "สิ่งนี้จะใช้ 50 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายนออกจากโต๊ะ ฉันยังคงคิดว่า 25 จุดพื้นฐานนั้นสมเหตุสมผล เพียงเพราะอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลง และเราได้รับรายงานที่ดีสองสามฉบับ PPI และ CPI ที่เพิ่มเข้ามา" Wyett กล่าว เขายังตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลการจ้างงานก่อนการประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีความสําคัญ แต่เชื่อว่าความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ใกล้เข้ามาได้รับการบรรเทาลง

การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 2 ปีมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นรายวันมากที่สุดในรอบสี่เดือน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปียังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งก่อนที่จะลดลงเล็กน้อย

ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสของ Income Research + Management ได้ให้บริบทสําหรับการเคลื่อนไหวของผลตอบแทน โดยกล่าวว่า "แม้ว่าจะค่อนข้างใหญ่สําหรับการเคลื่อนไหวในวันเดียว แต่ในบริบทของการขยับของอัตราผลตอบแทนที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมาที่นี่ มันเป็นเพียงการตอบแทนเล็กน้อย และสําหรับเราก็สมเหตุสมผล"

แม้จะมีข่าวว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมลดลง 0.6% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 0.3% แต่วิถีผลตอบแทนส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการผลิตประกอบด้วยส่วนที่เล็กกว่าของเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับกิจกรรมของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็น 70%

ความเชื่อมั่นในหมู่เทรดเดอร์ซึ่งถูกแบ่งแยกตั้งแต่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% ในวันที่ 2 สิงหาคม ดูเหมือนว่าตอนนี้จะตกลงไปในการปรับลด 25 จุดพื้นฐานในการประชุมคณะกรรมการตลาดเปิดของรัฐบาลกลางในวันที่ 17-18 กันยายน ฟิวเจอร์สของกองทุนเฟดบ่งชี้ว่าความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 จุดพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง 5.25% ถึง 5.5% เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 76% จาก 65% ในวันก่อนหน้า ตามการคํานวณของ LSEG

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังได้ปรับจุดยืนของตนตามข้อมูลล่าสุด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ Alberto Musalem และประธานเฟดแอตแลนตา Raphael Bostic ต่างก็แสดงความเปิดกว้างต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป

Bostic ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า "Now อัตราเงินเฟ้อกําลังเข้ามาในระยะ เราต้องมองไปที่อีกด้านหนึ่งของอาณัติ และที่นั่น เราได้เห็นอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับต่ําสุด แต่มันทําให้ฉันคิดถึงเวลาที่เหมาะสมคืออะไร ดังนั้นฉันจึงเปิดราคาเปิดรับบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในแง่ของการที่เราย้ายก่อนไตรมาสที่สี่"

ปิดวันอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 3.928% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนมากที่สุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม โดยเพิ่มขึ้น 15.9 จุดพื้นฐานเป็น 4.1055% ซึ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่พุ่งขึ้น 22.2 จุดพื้นฐานเมื่อวันที่ 10 เมษายน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีก็เพิ่มขึ้น 7.7 จุดพื้นฐานเป็น 4.1856%

ช่องว่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 และ 10 ปีกว้างขึ้นเป็นลบ 18 จุดพื้นฐาน ทําให้การผกผันลึกขึ้นจากติดลบ 12.8 จุดพื้นฐานในวันก่อนหน้า เส้นอัตราผลตอบแทนกลับหัวมักถูกตีความว่าเป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กําลังจะเกิดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เส้นโค้งเปลี่ยนไปเป็นทางบวกชั่วครู่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่เฟดจะผ่อนคลาย 50 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน