Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังสัญญาณเงินเฟ้อที่ยังมีอยู่ในสหรัฐเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ขณะที่นักลงทุนยังคงรอคอยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในจีน
ตลาดภูมิภาคได้รับสัญญาณมราค่อนข้างนิ่งจากวอลล์สตรีท เนื่องจากกระแสของสินทรัพย์เสี่ยงหลังจากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดูเหมือนว่าจะเริ่มเย็นลง หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัวในตลาดเอเชีย หลังวอลล์สตรีทปรับลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงสองเซสชั่นที่ผ่านมา
ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ประกาศออกมาสอดคล้องกับคาดการณ์ในเดือนตุลาคม แต่ยังคงแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่
แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะช่วยหนุนเดิมพันเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนธันวาคม แต่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวนั้นยังคงไม่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับนโยบายที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อภายใต้การบริหารงานของทรัมป์
ตลาดกำลังรอคอยคำแถลงของ เจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟดเพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25 จุดพื้นฐานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และย้ำถึงแนวทางการปรับลดที่ขึ้นอยู่กับข้อมูล
หุ้นจีนปรับตัวลงก่อนมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.8% ในวันนี้
รายได้เชิงบวกจากบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings Ltd (HK:0700) นั้นกลับแทบไม่ได้ช่วยยกดัชนีหุ้นฮ่องกงขึ้นเลย แม้ว่าหุ้น Tencent จะเพิ่มขึ้นกว่า 1% ก็ตาม
ตลาดท้องถิ่นขาดทุนบางส่วนหลังจากมาตรการทางการคลังรอบล่าสุดของปักกิ่งไม่เป็นไปตามความคาดหวัง โดยนักลงทุนคาดหวังต่อมาตรการเฉพาะทางเพิ่มเติมที่มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการใช้จ่ายภาคเอกชนและตลาดอสังหาริมทรัพย์
ธนาคารประชาชนจีนคาดว่าจะตัดสินใจเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี ในสัปดาห์หน้า แม้ว่านักวิเคราะห์จะยังคงไม่แน่ใจว่าจะมีการปรับลดเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปมากกว่าที่คาดในเดือนตุลาคม
ปักกิ่งคาดว่าจะกำหนดมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในการประชุมทางการเมืองที่สำคัญอีกสองครั้งในเดือนธันวาคม โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าจีนกำลังรอประเมินผลกระทบจากการบริหารของทรัมป์ต่อประเทศก่อนที่จะปลดล็อกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าจะกำหนดอัตราภาษีการนำเข้าที่สูงกับจีน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคทางเศรษฐกิจมากขึ้น
หุ้นออสเตรเลียปรับเพิ่มขึ้นหลังผู้ว่าการ RBA ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังเท่าเดิม
ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย มิเชล บุลล็อก กล่าวว่า นโยบายการเงินมีความเข้มงวดเพียงพอและจะยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน จนกว่าธนาคารจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อกำลังลดลง
บุลล็อกกล่าวว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงระมัดระวัง ขณะที่เธอยังชี้ถึงความเสี่ยงจากนโยบายเงินเฟ้อภายใต้การบริหารงานของทรัมป์
คำแถลงของบุลล็อกเกิดขึ้นหลังจากที่ ข้อมูลการจ้างงาน แสดงให้เห็นว่าการเติบโตในตลาดแรงงานของออสเตรเลียเย็นลงในเดือนตุลาคม หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึงหกเดือน อีกทั้งตลาดแรงงานที่เย็นลงก็ยังลดความคาดหวังเกี่ยวกับเงินเฟ้ออีกด้วย
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับลดลง หลังขาดทิศทางที่ชัดเจนเพราะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและการบริหารของทรัมป์ ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.6% ขณะที่ TOPIX เป็นบวกเล็กน้อย
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่ดัชนีอินเดียฟิวเจอร์ส Nifty 50 มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบอ่อนแอ หลังจากดัชนีลดลงต่อเนื่องกันเป็นวันที่ห้า โดยลดลงถึง 10% จากระดับสูงสุดที่เคยทำได้ในเดือนกันยายน
การลดลงล่าสุดของหุ้นอินเดียนั้นเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ถอนการลงทุนออกจากตลาดท้องถิ่นหลังจากมีกำไรอย่างแข็งแกร่งเมื่อต้นปี