โดย Dhirendra Tripathi
Investing.com -- NASDAQ Composite พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี หลังจากรายงานผลประกอบการที่เป็นบวกจาก Ford, Merck และ Caterpillar (NYSE:CAT)
ไม่มีอะไรหยุดความกระตือรือร้นของนักลงทุนได้ แม้แต่ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสที่สาม
หุ้นของ Ford Motor Company (NYSE:F) เพิ่มขึ้น 11% หลังจากทำได้เหนือความคาดหมายและเพิ่มการคาดการณ์สำหรับทั้งปี ขณะที่ Merck & Company Inc (NYSE:MRK) ก็ปรับเพิ่มการคาดการณ์เช่นกัน หลังเผยว่าอาจมียอดขาย 7 พันล้านดอลลาร์จากยาป้องกันโควิด หากตัวยาได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าเศรษฐกิจอยู่ที่อัตรา 2% ต่อปีในไตรมาสก่อน โดยการเติบโตลดลงจากการติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตและซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก
ภาพรวมการจ้างงานในสหรัฐฯ ยังคงแสดงการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยชาวอเมริกันยื่นคำร้องครั้งแรกสำหรับสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัทใน S&P 500 คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 37.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สาม เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ 29.4% เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลประกาศผลประกอบการ
ข้อมูลเงินเฟ้อและการใช้จ่ายจะครบกำหนดในวันศุกร์ ต่อไปนี้คือ 3 ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด:
1. กำไร Chevron
เราได้รับรายงานสองฉบับจากบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่เมื่อวันศุกร์ Chevron Corp (NYSE:CVX) มีกำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่สามอยู่ที่ 2.21 ดอลลาร์จากรายรับ 40.27 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมข้อมูลโดย Investing.com
2. รายได้ของ Exxon
ExxonMobil (NYSE:XOM) คาดว่าจะรายงานรายรับในไตรมาส 3 ที่ 71.02 พันล้านดอลลาร์และกำไรต่อหุ้น 1.56 ดอลลาร์
3. การบริโภคส่วนบุคคล
ดัชนีราคา ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หลัก ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐเลือกใช้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนกันยายน ซึ่งชะลอตัวเล็กน้อย กว่า 0.3% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้น 3.7% ข้อมูลออกมาเวลา 8:30 น. ET (1230 GMT)