โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – วันนี้ มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในรายละเอียด และเรื่องที่น่าจับตาจริง ๆ อยู่ 2-3 ประเด็น มาเริ่มกันที่ ตลาดหุ้นไทย (SET) เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังพยายามกลับมาฟื้นให้ได้ไม่เกิน 1,550 จุด และกลับมาปรับตัวละลงกว่า 1,535 จุด อันเป็นการบอกถึงภาพการเคลื่อนไวติดลบที่จะเกิดในช่วงระยะกลาง หุ้นที่น่าเลือกเก็งกำไรได้แก่ KEX, TTA, TK และ SVI
สำหรับราคาทองคำ วันนี้ ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.29 น. ราคาคงที่ไม่เพิ่มไม่ลด เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของวันพฤหัสบดี ที่ตลอดทั้งวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 3 รอบ รวมปรับขึ้น 50 บาท ทำจุดสูงสุดใหม่ของปีบริเวณ 28,450 บาท ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 28,950 บาท รับซื้อบาทละ 27,833.76 บาท ราคาทองแท่ง ขายออกบาทละ 28,450 บาท รับซื้อบาทละ 28,350 บาท
สำหรับภาพการลงทุนวันนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตามได้แก่
1. ตัวเลขผู้ข้อรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงและภาวะขาดแคลนแรงงานในสหรัฐฯ คาดจะทำให้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาแข็งแกร่ง สนับสนุนภาพการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แม้จะยังไม่มากพอจะปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่มีโอกาสเริ่มดำเนินการปรับลดการผ่อนคลายทางการเงิน (ลด QE) ล่าสุด ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เริ่มเปิดเผยแผนในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อคืนพันธบัตร ทำให้เราประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ในช่วงนับถอยหลังที่จะเริ่มดำเนินการลด QE เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตลาดให้ความสำคัญกับการประชุมเฟด 21-22 กันยายนมากขึ้น
2. การล็อคดาวน์จะกดดันการบริโภคและดัชนีหุ้น GDP ไทยมากกว่า 50% มาจากการบริโภค ดังนั้นการล็อคดาวน์ที่อาจจะยืดเยื้อไปจนถึง สิ้นก.ย. จะทำให้กิจกรรมในระบบเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพ และเพิ่มความเสี่ยงด่านต่ำสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่แรงส่งของหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีแรก จะเริ่มลดลงเนื่องจากการฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของประเทศต่างๆ จะเริ่มเกิดขึ้นที่ภาคบริการ ทำให้เรายังคงมุมมองระมัดระวังและ downside ขแงหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังที่ 1,450-1,520 จุด โดยให้น้ำหนักกับการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในระดับต่ำกว่า 1,500 จุด
3. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ค.64ทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์. ลดลงมาอยู่ที่ 40.9 จาก 43.1 ในเดือน มิ.ย. โดยทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รับความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอก 3-4