เจ้าหน้าที่ทางด้านการเงิน 4 แห่งประกอบไปด้วยจีน, ฮ่องกง, ไทย, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้มีการเดินหน้าทดสอบการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินดิจิทัลแล้ว
จับมือชำระเงิน CBDC
คาดว่าการชำระเงินข้ามพรมแดนและการทำธุรกรรมระหว่างประเทศจะมีเงินสะพัดมากถึง $22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่วนหนึ่งจะเริ่มมีการดำเนินโครงการนำร่องกับธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศสาขาฮ่องกง ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ทางด้านการเงินของจีน, ฮ่องกง, ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ทดลองการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินดิจิทัล
โดยโครงการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินดิจิทัลมีการจับมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่การเงินของฮ่องกง, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ, ธนาคารกลางของประเทศจีนและของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ในช่วงที่ทำการทดสอบนั้น จะมีการให้ธนาคารพาณิชย์ 20 แห่งเดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินให้กับทางผู้บริโภคได้ทำการซื้อขายสินค้าข้ามพรมแดน เรื่องนี้ทางด้านธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศได้กล่าวว่า การออกแบบแพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกตรงนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดมากถึง $12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะมีการทำธุรกรรมเพิ่มมากถึง $22 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอนาคต
ขยายหยวนดิจิทัลไปยังประเทศอื่น
สอดคล้องกับสำนักข่าวทางด้านการเงินที่ได้ระบุว่า ธนาคารกลางของประเทศจีนจะมีการทดสอบการใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัลกับทางธนาคาร HSBC และธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมกับร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานที่ว่า จีนจะมีการใช้สกุลเงินอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยที่มุ่งเน้นขายการใช้หยวนดิจิทัลไปยังประเทศอื่น ๆ มากขึ้น รวมไปถึงประเทศที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นที่คาดว่า อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีอิทธิพลน้อยลงไป