ราคาบิทคอยน์ (BTC) ทะลุตำ่กว่าแนวรับสำคัญในวันพฤหัสบดี เนื่องจากตลาดคริปโตอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดก็เกิดขึ้นเพราะข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ผลักดันให้นักลงทุนออกจากพื้นที่คริปโต
BTC มีการซื้อขายลดลง 3.9% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 28,209 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2020 โดยขณะนี้ BTC ได้ร่วงลงเกือบ 66% นับตั้งแต่การทำสถิติสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้ว
การร่วงลงอย่างหนักของ BTC ในครั้งนี้อาจทำให้ราคาบิทคอยน์เข้าใกล้จุดต่ำสุด โดย Peter Brandt นักวิเคราะห์รุ่นเก๋าก็มองว่าระดับ 27,000 ดอลลาร์ นั้นเป็นจุดต่ำสุดที่มีความเป็นไปได้
การที่ราคาบิทคอยน์ลดลงต่ำกว่า 27,000 ดอลลาร์นั้นเกิดจากปัจจัยสามประการดังนี้
1. จุดเริ่มต้นเกิดจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ราคาบิทคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 31,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนการเปิดเผยรายงาน CPI ของสหรัฐฯในวันพุธ แต่สุดท้ายก็ปรับตัวลดลงสู่ 28,000 ดอลลาร์ ภายในไม่กี่นาที หลังจากที่ข้อมูลดังกล่าวออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
แม้ว่าจะต่ำกว่าข้อมูลของเดือนมีนาคมเล็กน้อย แต่ก็แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นต้องใช้เวลานานกว่าที่จะลดลงได้ โดยสิ่งนี้จะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก ซึ่งจะเป็นสถานการณ์เชิงลบอย่างมากสำหรับ BTC การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นของเฟดหรือธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้ก็ทำให้ BTC ต้องร่วงลงอย่างหนัก
2. ราคาตลาดหุ้นร่วงลงตามบิทคอยน์
ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทำให้ราคาตลาดหุ้นลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.7% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ BTC ร่วงลงกว่า 3%
เนื่องจากความสัมพันธ์ (Correlation) ของราคา BTC กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นเคยสูงเป็นประวัติการณ์ และดูเหมือนว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อ BTC เช่นกัน โดยราคาหุ้นเอเชียก็ร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี ทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบเพิ่มเติมสำหรับ ...