ศาสตราจารย์ด้านการเงินของมหาวิทยาลัย Wharton กล่าวว่า Bitcoin (BTC) ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ได้เข้ามาทำหน้าที่แทนทองคำ ในฐานะตัวป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อสำหรับกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ผลงานของทองคำแบบดั้งเดิมนั้น “น่าผิดหวัง” ในปี 2021 Jeremy Siegel ศาสตราจารย์ด้านการเงินของมหาวิทยาลัย Wharton กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC Squawk Box เมื่อวันศุกร์ ในทางกลับกัน Bitcoin ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในหมู่นักลงทุนอายุน้อย Siegel กล่าวแย้ง : “มาเผชิญหน้ากับความจริงกันเถอะ ผมคิดว่า Bitcoin เป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อในใจของนักลงทุนรุ่นเยาว์หลายคนได้เข้ามาทำหน้าที่แทนทองคำ เหรียญดิจิทัลเป็นทองคำยุคใหม่สำหรับคนเจน Y ผมคิดว่าเรื่องราวของทองคำคือความจริงที่ว่า คนรุ่นใหม่หันมาใช้ Bitcoin แทน” Siegel ยังเตือนด้วยว่าคนรุ่นก่อน ๆ ได้เห็นการที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นในช่วงเงินเฟ้อของปี 70 “แต่คราวนี้มันจะไม่เป็นที่โปรดปราน” เขากล่าวเสริม ทองคำ กลายเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยเงินเฟ้อที่ล้มเหลวในการตอบสนองต่อความคาดหวังของนักลงทุนในปี 2021, และเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 โดยราคาลดลงประมาณ 5% และปิดราคารายปีที่ $1,800 ขณะที่ Bitcoin แม้จะมีความผันผวนของราคาอย่างมากในปี 2021 แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นประมาณ 70% เมื่อถึงสิ้นปี 2021 นักลงทุนระดับโลกที่โดดเด่นหลายคนก็หันมาสนับสนุน Bitcoin มากกว่าทองคำในปี 2021 โดย Mark Cuban เจ้าของ Dallas Mavericks มองว่า Bitcoin “ดีกว่าทองคำ” ในเดือนตุลาคม 2021 Barry Sternlicht ผู้ร่วมก่อตั้ง Starwood Capital Group ยังกล่าวด้วยว่าจริง ๆ แล้วทองคำนั้น “ไร้ค่า” และเขากำลังถือ Bitcoin เพราะรัฐบาลทั่วโลกกำลังพิมพ์เงินขึ้นมาเป็นจำนวนมหาศาล แม้ Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อเทียบกับทองคำ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและคริปโตหลายคนเชื่อว่ามันยังไม่สามารถพิสูจน์สถานะตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ ที่มา cointelegraph
กดอ่านข่าว “Bitcoin คือ ทองคำยุคใหม่สำหรับคน Gen Y” ศาสตราจารย์ด้านการเงินของมหาวิทยาลัย Wharton กล่าว ต่อที่ Siam Blockchain