อัตราเงินเฟ้อใน US เพิ่มขึ้น รุนแรงสุดในรอบ 40 ปี
ข้อมูลสถิติดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนนั้นย่ำแย่ที่สุดในรอบ 40 ปีโดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.8%
ข้อมูลของกระทรวงแรงงานเผยอีกว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2525 ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันให้กับธนาคารกลางสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคริปโตและการเงินแบบดั้งเดิมต่างคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มสูงขึ้นและปรับระดับไปที่ 6.7% เป็นอย่างต่ำ บางคนก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจสูงขึ้นถึง 7% เลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลที่ออกมาก็ค่อนข้างจะใกล้เคียงจากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น
ราคา Bitcoin (BTC) มีความเคลื่อนไหวอย่างไร?
หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นเพิ่มสูงขึ้น ผู้คนต่างก็คาดหวังว่า Bitcoin จะทำหน้าที่เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง (Hedge) จากอัตราเงินเฟ้อนั้น ๆ นักลงทุนต่างคาดหวังให้ Bitcoin เป็นทองคำดิจิทัล
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 64 ราคา Bitcoin (BTC) นั้นอยู่ที่ $68,622 (2,306,385.42 บาท) และค่อย ๆ ร่วงลงมาที่ $48,199 (1,619,968.39 บาท) คิดเป็น -29.76% มูลค่าตลาดของเดือน พ.ย. อยู่ที่ $1.29 ล้านล้าน ในตอนนี้ลดลงมาอยู่ที่ $910 ล้าน เงินมูลค่ากว่า $380 พันล้านหายไปจากตลาด Bitcoin เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
ในเวลานี้ราคา Bitcoin นั้นเทรดอยู่ที่แถว ๆ ระดับ $48,082.03 (1,616,037.03 บาท) ปรับระดับขึ้น 0.7% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และร่วงลงกว่า -10.5% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก CoinGecko
ราคา Bitcoin ร่วงไปแตะที่ $47,627 ในวันที่ 10 ธ.ค. 65 ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาได้หลังจากที่มีข่าวเรื่องอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นี้ขึ้นมา จากนั้นก็ได้ร่วงลงไปอีกประมาณ $1,000 จากระดับ $49,899 ในเวลาเพียงแค่ 10 นาที
นาย Pompliano กล่าวว่าการที่อัตราเงินเฟ้อนั้นเพิ่มสูงขึ้นที่ 6.8% นั้นหมายถึงพอร์ตการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญของสหรัฐฯ นั้นได้ผลตอบแทนไม่ค่อยดีด้วย
“อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.8% หมายความว่ากองทุนบำเหน็จบำนาญสหรัฐที่นำเงินไปลงทุนกลับได้ผลตอบแทนติดลบในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อย่าพึ่งพาเงินเกษียณ ให้หาความรู้ในการลงทุน”
ในเวลานี้นักลงทุนยังคงเฝ้ามองตลาดเนื่องจากในอีก 7 วันข้างหน้า Bitcoin อาจจะผันผวนขึ้นอีกและอาจปรับตัวไปสู่ขาขึ้นหรือขาลงก็ได้