ในงาน Blockshow Summit ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ได้มีหัวข้อการพูดคุยภายในงานซึ่งจะพูดถึง Generation Y ที่กำลังจบการศึกษา ถูกตรึงไว้ด้วยหนี้จากการศึกษา ค่าแรงที่ต่ำ และขาดเงินเก็บ ผู้ซึ่งเล็งเห็นว่าตลาดเงินดิจิทัลนั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในการทำให้หลุดภาระอันแสนหนักอึ้งเหล่านั้น ซึ่งงาน Blockshow Summit นี้ได้เชิญนาง Aya Kantorovich จาก FalconX, นาย Zac Prince จาก BlockFi และนาย Michael Sonnenshein จาก Grayscale ในหัวข้อที่เกี่ยวกับคนใน Generation ใหม่ที่กำลังจบการศึกษา และน่าจะส่งผลต่อตลาดเงินดิจิทัลอย่างมาก ซึ่งระหว่างการวิเคราะห์กันนั้น นาย Zac ได้ระบุ 3 ปัจจัยที่ชี้ว่า Generation Y เป็นกลุ่มที่กำลังเข้ามาลงทุนภายในตลาดเงินดิจิทัลกันมากขึ้นซึ่งได้แก่ มรดกที่ Generation Y ได้รับคนรุ่นก่อน การเติบโตของตลาดทรัพย์สินทางเลือก และความเป็นดิจิทัลที่กำลังเข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้นาย Zac ยังได้กล่าวต่ออีกว่าประขากร Generation Y นั้นเป็นกลุ่มคนที่กำลังค่อย ๆ ครอบครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นทรัพยากรบุคคลที่ล้ำค่ามากเพราะคนกลุ่มนี้จะมองสถานการณ์ล่วงหน้าและทันต่อสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ นาง Aya ได้เสริมเรื่องความเข้าถึงได้ของตลาดเงินดิจิทัลในปัจจุบัน เพราะทางสถาบันลงทุน FalconX ของเธอได้เล็งเห็นว่าแม้จะมีนักลงทุนที่รอเข้ามาอยู่อีกเป็นจำนวนมาก แต่เพราะขาดแพลตฟอร์มที่จะสามารถให้สภาพคล่องทางการเงินที่ดี ทำให้การเข้ามาของนักลงทุนหน้าใหม่และผู้ต้องการใช้สกุลเงินดิจิทัลนั้นช้ากว่าที่ทางบริษัทได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งท้ายที่สุด นาย Michael ได้สรุปไว้ว่าคนรุ่นใหม่นั้นมีมุมมองที่ส่งผลในทางที่ดีกับตลาดเงินดิจิทัลอย่างมาก เพราะคนรุ่นใหม่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกระจายความเสี่ยงโดยการถือสกุลเงินดิจิทัล หรือกล่าวได้อีกอย่างว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงสกุลเงินหลักอย่าง Bitcoin เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง Altcoins ตัวอื่น ๆ ด้วย ที่มา: cointelegraph
กดอ่านข่าว สาเหตุที่คนยุค Generation Y จะทำให้ Bitcoin กลายมาเป็นสินทรัพย์เบอร์ 1 ของโลก ต่อที่ Siam Blockchain