โดย Barani Krishnan
Investing.com – ภาพรวมของตลาดพลังงานและโลหะมีค่าในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
ภาพรวมตลาดพลังงาน
ของสหรัฐฯ ปิดสัปดาห์ที่แล้วบวก 0.7% เท่ากับ $54.87 ต่อบาร์เรล
ส่วน บวกขึ้นมาเพียง 0.2%และยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ $60 ที่ $58.64 ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขณะนี้ต้องต่อกรกับช่วงเวลาแห่งความผันผวนที่ย่ำแย่ที่สุด ข่าวดีจากตลาดน้ำมันจะต้องหักล้างกับข่าวร้ายจากสถานการณ์ทางการค้า ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลาดลงอันเป็นสัญญาณของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกด้วย
TD Securities ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า “แรงซื้อจากการพลิกฟื้น” ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงต่าง ๆ ได้ช่วยบรรเทาแรงกดดันขาลงของราคาน้ำมันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาภายหลังจากสัปดาห์ที่แสนระทึกขวัญ
ถึงกระนั้นกลุ่มโอเปกก็เคยกล่าวไว้ว่า ในปี 2020 อุปทานน้ำมันน่าจะเกิน เพราะยังมีประเทศอื่น ๆ ที่เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตต่อ
นอกจากนี้กลุ่มโอเปกยังได้ลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปี 2019 ลงไป 40,000 บาร์เรล สืบเนื่องจากแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ฉะนั้นกลุ่มโอเปกจึงเริ่มมีท่าทีที่เอนเอียงไปทางตลาดหมี เช่นเดียวกับสำนักงานพลังงานสากลหรือ IEA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลจัดการเกี่ยวกับผู้อุปโภคน้ำมันทั่วโลก
ปฏิทินตลาดพลังงานสัปดาห์นี้
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม
ตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก Genscape Cushing (ข้อมูลภาคเอกชน)
วันอังคารที่ 20 สิงหาคม
รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์จาก
วันพุธที่ 21 สิงหาคม
รายงาน จาก EIA
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม
จาก EIA
วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์จาก
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่า
ปีนี้ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับทองคำ นับตั้งแต่การขึ้นไปทำระดับสูงสุดในประวัติการณ์เมื่อแปดปีที่แล้ว
ขณะนี้ ในตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์ค เมอร์แคนไทล์ เอ็กซ์เชนจ์ วนเวียนอยู่ใต้ระดับสูงสุดในรอบหกปีที่ $1,525 ต่อออนซ์ และตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันราคาได้บวกขึ้นมาแล้วมากกว่า 15% ซึ่งเป็นขาขึ้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 ที่เคยทำระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ $1,911.60
สัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันที่ราคาทองปรับขึ้น และเป็นขาขึ้นสัปดาห์ที่ 11 ภายในระยะเวลา 13 สัปดาห์อีกด้วย
Investing.com ได้กำหนดให้ทองคำจากตลาดโคเม็กซ์ อยู่ในระดับที่ "ควรซื้ออย่างยิ่ง" ในภาพรวมทางเทคนิครายวัน และคาดว่าในระยะสั้นจะมีแนวต้านที่ $1,599.24
แต่นักวิเคราะห์บางท่านอย่าง Christopher Vecchio กลับมองว่า ทองคำจะมีแนวต้านอยู่ที่ $1,820 และหากทะลุไปได้ อาจหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ หรืออาจทำระดับสูงสุดครั้งใหม่เลยด้วยซ้ำ
แม้ราคาทองคำจะบวกขึ้นรายวันสูงสุดถึงวันละ 2% ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่กี่สัปดาห์มานี้ขาขึ้นของราคาทองคำเริ่มชะลอตัว เนื่องจากผู้ลงทุนกำลังรอสัญญาณความผ่อนคลายจากธนาคารกลางต่าง ๆ โดยเฉพาะเฟด ก่อนที่จะเปิดสัญญาซื้อเพิ่ม
ถึงแม้แรงกระตุ้นในตลาดทองคำจะมีความเป็นตลาดกระทิงโดยส่วนมาก แต่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายท่าน เช่น Michael Boutros กลับคิดว่าราคาทองคำอาจกำลังใกล้ถึงจุดย่อตัว
เนื่องจากราคาปิดของสัปดาห์ที่แล้วอยู่ต่ำกว่าระดับ $1,526 เมื่อมองในมุมมองของการซื้อขายแล้ว อาจเป็นสัญญาณให้ผู้ลงทุนลดการถือสัญญาซื้อ และเริ่มกำหนดจุดขายสัญญาเพื่อทำกำไร โดย Boutros ได้กล่าวว่า "ให้เฝ้าระวังการทะยานขึ้นครั้งสุดท้ายก่อนปรับตัวลง"
ปฏิทินตลาดโลหะมีค่าสัปดาห์นี้
วันอังคารที่ 20 สิงหาคม
ดัชนี PPI เยอรมนี (ก.ค.)
ยอดขายภาคการผลิตแคนาดา (มิ.ย.)
สมาชิกเฟด นายควอร์เลส ให้คำกล่าว
วันพุธที่ 21 สิงหาคม
ดัชนี CPI แคนาดา (ก.ค.)
ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ (ก.ค.)
รายงานผลการประชุมเฟด
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม
ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคกิจการบริการฝั่งยูโรโซน (ส.ค.)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ
ดัชนี PMI ภาคกิจการบริการสหรัฐฯ (ส.ค.)
การประชุมที่แจ็คสัน โฮล
วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม
ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ให้คำกล่าว
ยอดขายบ้านมือหนึ่งสหรัฐฯ (ก.ค.)
การประชุมที่แจ็คสัน โฮล