โดย Ambar Warrick
Investing.com-- ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคารเนื่องจากซาอุดีอาระเบียขู่ว่าจะลดการผลิตเพื่อชดเชยอุปทานที่มากเกินไปของอิหร่าน ในขณะที่แถลงการณ์ที่ตรงกันข้ามกับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างเตหะรานและวอชิงตันระบุว่าข้อตกลงอยู่ห่างเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 90.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่การซื้อขายในลอนดอน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 96.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 20:02 น. ET (00) :02 GMT)
ราคาน้ำมันพลิกกลับการขาดทุนครั้งแรกในวันจันทร์ โดยทรงตัวในช่วงที่มีความผันผวนหลังจากซาอุดีอาระเบียผู้นำขององค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) กล่าวว่าอาจลดการผลิตน้ำมันดิบเพื่อรักษาราคา
ความคิดเห็นของซาอุดิอาระเบียมีขึ้นหลังจากรายงานความคืบหน้าในการต่ออายุข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะยกเลิกการคว่ำบาตรจากตะวันตกหลายครั้งต่อเตหะราน คาดว่าจะปล่อยอุปทานน้ำมันดิบมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
แต่ในเวลาต่อมา อิหร่านกล่าวในวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ พยายามที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ และกล่าวหาสหภาพยุโรปว่าไม่ดำเนินการใด ๆตามการรายงานของรอยเตอร์ส สหภาพยุโรปกำลังอำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างสองประเทศ
วอชิงตันปฏิเสธข้อกล่าวหาของเตหะราน และกล่าวว่าข้อตกลงใกล้เข้ามามากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมีความยืดหยุ่นอย่างเห็นได้ชัดในด้านประเทศในเอเชียตะวันตก มีรายงานว่าอิหร่านเปิดกว้างเพื่อยกเลิกความต้องการที่สหรัฐฯ ยกเลิกการแต่งตั้งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเป็นองค์กรก่อการร้าย
ความต้องการเป็นจุดยึดหลักสำหรับข้อตกลงนี้
แต่รายงานของ Axios เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าแรงกดดันจากอิสราเอลที่มีต่อสหรัฐฯ อาจทำให้ข้อตกลงดังกล่าวหยุดชะงักลง อิสราเอลกังวลว่าเตหะรานจะใช้กระแสรายได้ใหม่จากการส่งออกน้ำมันเพื่อสนับสนุนกิจกรรมก่อการร้ายต่อเยรูซาเลม
ข่าวข้อตกลงนิวเคลียร์ส่วนใหญ่กำหนดการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่สหภาพยุโรปแจ้งความคืบหน้าในการเจรจา
แต่นอกเหนือข้อตกลงนี้ ราคาน้ำมันยังต้องต่อสู้กับสัญญาณการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งอาจนำไปสู่อุปสงค์ที่ลดลงในปี 2022