โดย Ambar Warrick
Investing.com – ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวแดนลบในวันศุกร์หลังจากที่ทำกำไร 2 วัน เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของอุปสงค์จากสหรัฐฯ แต่ยังคงขาดทุนรายสัปดาห์จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของจีนและอุปทานที่มากเกินไปจากอิหร่านที่อาจเกิดขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.1% เป็น 90.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 20:19 น. ET (00:19 GMT) ในขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 96.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาทั้งสองปรับตัวขึ้นระหว่าง 2 ถึง 3 ดอลลาร์ในช่วงสองช่วงที่ผ่านมาหลังจากมีตัวบ่งชี้อุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากสหรัฐอเมริกา
แต่ราคาน้ำมันได้ร่วงลงประมาณ 2% ในแต่ละสัปดาห์หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีนที่เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ทำให้เกิดเส้นกราฟที่เว้าลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ข้อมูลในวันจันทร์แสดงให้เห็นว่า ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ชะลอตัวจนถึงเดือนกรกฎาคม ขณะที่ ธนาคารกลางจีน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิดเมื่อเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว
ราคาน้ำมันร่วงลงมากขึ้นจากการเดิมพันเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่อาจบรรลุผล ซึ่งอาจทำให้เกิดการยกเลิกการคว่ำบาตรหลายข้อจากประเทศตะวันตก โดยการเคลื่อยไหวนี้คาดว่าจะมีการปล่อยอุปทานมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันออกสู่ตลาด
ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันอย่างรุนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันเพิ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ทำให้กำไรที่เคยได้ทั้งหมดที่เกิดจากอุปทานที่ตกต่ำอันเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนหายไป
แต่ราคายังได้แรงหนุนในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์นี้จากการที่ตัวเลข สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากเกินคาด ประกอบกับสัญญาณที่ว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินในประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ก็ช่วยให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา
เทรดเดอร์ยังเดิมพันด้วยว่าองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) จะลดอุปทานเพื่อรักษาราคาไว้
ในขณะที่กลุ่มเพิ่งเพิ่มอุปทานให้กลับสู่ระดับก่อนโควิด19 และเลขาธิการโอเปก Al Ghais เพิ่งบอกใบ้ถึงการลดอุปทานหากราคาจะลดลงอีก
Ghais ยังรับรองกับเทรดเดอร์ว่าความกลัวการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในประเทศจีนนั้นเกินจริง