โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันร่วงลงในเช้าวันพุธในเอเชีย ซึ่งเป็นวันที่สามที่น้ำมันปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลว่าการเติบโตของอุปทานจะแซงหน้าการเติบโตของอุปสงค์ในปี 2565 แม้มีการคาดการณ์ว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่จะไม่ทำให้เกิดการล็อกดาวน์เร็วเหมือนไวรัสสายพันธุ์ก่อนหน้านี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 1.04% มาที่ 72.93 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4:00 GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.19% เป็น 69.89 ดอลลาร์
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) กล่าวเมื่อวันอังคารกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นหลังมีการค้นพบสายพันธุ์โอมิครอนอาจทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงทั่วโลกลดลง ในขณะเดียวกันการผลิตน้ำมันดิบคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ขณะที่ องค์การผลิตเพื่อการส่งออกน้ำมัน (OPEC) ได้ปรับเพิ่มประมาณการความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับไตรมาสแรกของปี 2565 ในวันจันทร์
“มุมมองที่แข็งกร้าวของ IEA ต่อตลาดนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับมุมมองเชิงบวกที่มากขึ้นของ OPEC เมื่อเปิดเผยแนวโน้มรายเดือนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ความขัดแย้งนี้บ่งชี้ว่าความผันผวนมีแนวโน้มที่จะยังคงสูงในระยะสั้น” นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ ANZ กล่าวในหมายเหตุ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปทานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะเกินความต้องการจนถึงสิ้นปี 2565 เป็นอย่างน้อย ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา(API) เผยในวันอังคาร ว่ามีการดึงน้ำมันออกจากคลัง 815,000 บาร์เรลสำหรับ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ธันวาคม การคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com ได้คาดการณ์การดึงออกมา 2.6 ล้านบาร์เรล ในขณะที่มีการดึงจริง 3.089 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อน
ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสำนักงานข้อมูลด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา(EIA) ที่จะถึงภายในวันนี้
พวกเขายังรอ การตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ที่กำลังจะมาถึงเพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของธนาคารกลางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในธนาคารกลางแห่งสำคัญที่จะส่งมอบการตัดสินใจเชิงนโยบายตลอดทั้งสัปดาห์