Investing.com - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย มุ่งหน้าเพื่อปิดสัปดาห์ด้วยการบวกขึ้นมากกว่า 7% หลังจากเกิดเหตุวินาศกรรมโรงกลั่นน้ำมันซาอุดิอาระเบียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
เหตุวินาศกรรมครั้งล่าสุดนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ และทำให้ซาอุฯ สูญเสียกำลังการผลิตน้ำมันไปเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
สหรัฐฯ และซาอุฯ ต่างก็เชื่อว่าอิหร่านเป็นตัวการก่อเหตุครั้งนี้ แต่อิหร่านกลับปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุการณ์นี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน นายโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ ชี้ว่าการกล่าวหาว่าอิหร่านเป็นตัวการก่อเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ นั้น "เป็นการประกาศสงคราม" ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งเป้าไปยังอิหร่านแทนก็เป็นได้
โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ "เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการแซงก์ชัน" อิหร่านด้วย
ทั้งนี้อุปทานน้ำมันโลกยังคงน่ากังวล หลังจากมีข่าวว่าซาอุฯ ได้ขอให้อิหร่านส่งน้ำมันดิบมาเพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันดิบในประเทศกว่า 20 ล้านบาร์เรล จึงทำให้ตลาดเริ่มกังวลว่าซาอุฯ จะสามารถฟื้นคืนกำลังการผลิตน้ำมันได้อย่างสมบูรณ์ภายในเดือนนี้จริงหรือไม่
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น 0.9% เท่ากับ $58.69 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00:21 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (04:21 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ บวกขึ้น 0.3% อยู่ที่ $64.62 ต่อบาร์เรล