Investing.com – ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็นวันที่ห้าติดต่อกันเมื่อวานนี้ แต่ราคาสัญญาซื้อขายน้ำมันเบรนท์กลับปิดลบส่งท้ายเดือนกรกฎาคม ส่งสัญญาณความน่ากังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส ของสหรัฐฯ มีราคาปิดที่ $58.58 ต่อบาร์เรล ปรับขึ้นมา 53 เซนต์หรือราว 1% เมื่อวานนี้ ส่วนสำหรับเดือนกรกฎาคมราคาได้ไต่ขึ้นมา 11 เซนต์หรือคิดเป็น 0.2%
สัญญาเบรนท์ ปิดที่ $65.17 บวกขึ้นมา 45 เซนต์หรือประมาณ 0.7% เมื่อวานนี้ แต่สำหรับเดือนกรกฎาคมราคาสัญญาร่วงลงไป $1.37 หรือคิดเป็น 2.1%
สำหรับสัปดาห์นี้ทั้งสองสัญญาต่างก็เคลื่อนไหวในแดนบวก โดย WTI ขยับขึ้น 3.4% และเบรนท์ปรับขึ้น 1.6% แต่ขณะนี้ยังเหลืออีกสองวันจึงจะจบสัปดาห์ ฉะนั้นจึงยังไม่แ่นใจว่าตลาดจะรักษาแรงส่งขาขึ้นครั้งนี้ได้หรือไม่ และถ้าย่อตัวลงจะย่อตัวลงมาขนาดไหน
ผู้ลงทุนตลาดกระทิงก็ได้รับข่าวดีจากผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ที่ชี้ว่า กำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกประจำเดือนกรกฎาคมลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบแปดปี เนื่องมาจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างหนักหน่วงของซาอุฯ ปริมาณน้ำมันดิบอิหร่านที่ลดลงเพราะการแซงก์ชันของสหรัฐฯ และอื่น ๆ
แม้ว่าขณะนี้โอเปกจะนำพาให้กำลังการผลิตน้ำมันจะลดลง แต่ Stephen Brennock โบรกเกอร์น้ำมันจาก PVM ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ปริมาณน้ำมันคงคลังในตลาดโลกยังไม่ลดลงเลย และตลาดน้ำมันยังคงมีอุปทานรองรับอย่างพอเพียง"
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากข้อมูลรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลงราว 8.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม ต่างจากที่คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะลดลงไปเพียง 2.59 ล้านบาร์เรล