Investing.com - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย หลังจากผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากแท่นขุ่นเจาะน้ำมันอ่าวเม็กซิโกเนื่องจากพายุโซนร้อนแบร์รี ซึ่งคาดว่าจะพัดเข้าชายฝั่ง (Landfall) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ปรับขึ้น 0.6% เท่ากับ $60.55 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00:24 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (04:24 GMT) ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ จากทั่วโลกก็ปรับขึ้น 0.6% อยู่ที่ $66.94 ต่อบาร์เรล
Ellen Wald ประธานบริษัทและหนึ่งในผู้สนับสนุน Investing.com ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “ผู้ลงทุนตลาดน้ำมันไม่ควรละสายตาจากเหตุการณ์ที่อ่าวเม็กซิโกในตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน การกลั่นน้ำมัน และการส่งออกน้ำมันออกจากสหรัฐฯ รวมถึงราคาน้ำมันและการนำเข้าน้ำมันมาสู่สหรัฐฯ อีกด้วย"
ทางด้านรายงานประจำเดือนล่าสุดเมื่อวานนี้จากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) ได้คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีหน้าไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 1.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ตรงตามที่คาดไว้ในปี 2019 และกลุ่มโอเปกได้คาดการณ์อุปทานน้ำมันภายในประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเครือโอเปกว่าจะเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ย 2.44 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2020 จากที่ปีนี้เคยคาดไว้ว่าจะเติบโตขึ้น 2.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในรายงานระบุว่า “คาดว่ากำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ จะเติบโตขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากท่อส่งน้ำมันใหม่จะช่วยให้สามารถขนส่งน้ำมันดิบจากอเมริกาเหนือมายังอู่ส่งออกที่ชายฝั่งอ่าวของสหรัฐอเมริกาได้ นอกจากนี้ยังคาดว่าความจุจากท่อส่งน้ำมันใหม่ที่อเมริกาเหนือที่จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะสามารถใช้การได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2020 เป็นต้นไป"