Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในตลาดเอเชียวันนี้และขยายการขาดทุนจากเซสชั่นก่อนหน้า หลังแนวโน้มการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอนอาจลดความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเพิ่มภาษีนำเข้ากับจีน แคนาดา และเม็กซิโก ก็ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันเช่นกัน
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคมลดลง 0.3% มาเป็น 72.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.3% มาเป็น 68.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:14 น. (GMT+7)
ราคาน้ำมันถูกกดดันจากรายงานการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์
ราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันจันทร์ หลังจากมีรายงานจากสื่อหลายแห่งว่าอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงที่มีสหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยแล้ว
รายงานจากรอยเตอร์สระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้เตรียมประกาศการหยุดยิงในเร็ว ๆ นี้
การหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายถือเป็นการลดความตึงเครียดครั้งใหญ่ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง และลดความเสี่ยงที่การจัดหาน้ำมันจะหยุดชะงักเนื่องจากความขัดแย้ง
รายงานยังชี้ว่าไบเดนกำลังกดดันให้มีการหยุดยิงในกาซาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รายงานการหยุดยิงกลับถูกลดความสำคัญลง เนื่องจากทั้งอิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์ยังคงมีการโจมตีต่อกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันยังคงมีอยู่ เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมอสโคล์ขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อการใช้ขีปนาวุธระยะไกลที่ผลิตโดยตะวันตกของยูเครนในสงคราม
เงินดอลลาร์พุ่งขึ้นหลังคำขู่เรื่องภาษีของทรัมป์
ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นอย่างมากในวันนี้ ซึ่งมันสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันหลังจากที่ทรัมป์ขู่ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าอีก 10% กับจีนโดยอ้างถึงการลักลอบนำเข้ายาเสพติดผิดกฎหมายเข้าสู่สหรัฐฯ
ทรัมป์ยังขู่ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าอีกถึง 25% กับเม็กซิโกและแคนาดา โดยอ้างถึงผู้อพยพผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้าสหรัฐผ่านสองประเทศนี้
ดอลลาร์พุ่งขึ้นจากแนวโน้มนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งกลับมาใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองปี และสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นยังทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการ
แนวโน้มการเพิ่มภาษีนำเข้ากับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากอาจเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจให้กับปักกิ่ง
อีกทั้งจีนก็อาจตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีต่อสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้สงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการค้าโลก