InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (19 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าการทำสงครามที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน แต่ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบที่บ่อน้ำมันโยฮัน สเวอร์ดรุป (Johan Sverdrup) ในนอร์เวย์เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 69.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 73.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ยูเครนได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems หรือ ATACMS จำนวน 6 ลูกโจมตีแคว้นไบรอันสค์ของรัสเซีย โดยการยิงขีปนาวุธดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ระบบขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียอนุมัติให้ทหารเกาหลีเหนือจำนวนหลายพันนายเข้าร่วมรบในการทำสงครามกับยูเครน
ทางด้านวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ลงนามในกฤษฎีกาอนุมัติหลักการใหม่สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อรับมือกับการโจมตีพรมแดนเป็นวงกว้าง โดยใจความตอนหนึ่งของกฤษฎีการะบุว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องปรามชาติศัตรูที่อนุญาตให้มีการใช้ดินแดนหรือทรัพยากรเพื่อการรุกรานรัสเซีย
แดเนียล ไฮนส์ นักวิเคราะห์จากธนาคาร ANZ กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น และทำให้ตลาดหันมาจับตาความเสี่ยงที่จะมีต่ออุปทานน้ำมัน
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจีนซื้อน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น โดยเคปเลอร์ (Kpler) ผู้ให้บริการข้อมูลติดตามการขนส่งระบุว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบจากจีนในเดือนพ.ย.มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากเอควินอร์ (Equinor) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของนอร์เวย์ได้กลับมาดำเนินการผลิตที่บ่อน้ำมันโยฮัน สเวอร์ดรุป อีกครั้ง หลังจากที่ระงับการผลิตเนื่องจากปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยโยฮัน สเวอร์ดรุป เป็นบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย