Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า $1 ต่อบาร์เรลในวันนี้ หลังจากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ซาอุฯ รัสเซีย และอิหร่านหนุนหลังการลดกำลังการผลิตไปอีกหกถึงเก้าเดือน ล่วงหน้าก่อนการประชุมโอเปก ณ กรุงเวียนนา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ สำหรับการส่งมอบเดือนกันยายนขึ้นไปแตะระดับสูงสุดระหว่างวันถึง $66.44 ต่อบาร์เรล และมีราคาสูงขึ้น $1.57 หรือคิดเป็น 2.4% เท่ากับ $66.31 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 0436 GMT
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น $1.36 หรือคิดเป็น 2.3% เท่ากับ $59.83 ต่อบาร์เรล หลังจากก่อนหน้านี้ได้ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบนานกว่าห้าสัปดาห์ที่ $60.10
โอเปกและกลุ่มประเทศพันธมิตรมีแนวโน้มว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี 2019 ภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ต่างก็ได้ตกลงใช้นโยบายเพื่อหนุนราคาน้ำมันให้เพิ่มขึ้น
กลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ๆ หรือที่เรียกว่ากลุ่มโอเปก+ จะประชุมกันในวันนี้และวันพรุ่งนี้เพื่อหารือกันด้านการลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันเหล่านี้ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2017 เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันลดลงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และกำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า เขาได้ตกลงกับซาอุฯ แล้วว่าจะยืดเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันที่อัตรา 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เช่นเดิมไปอีกราวหกถึงเก้าเดือน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุฯ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ เผยว่าน่าจะยืดเวลาการใช้ข้อตกลงฉบับปัจจุบันไปอีกประมาณเก้าเดือน และจะไม่มีการลดกำลังการผลิตน้ำมันให้น้อยลงจากเดิมแต่อย่างใด