💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

เตรียมรับมือความผันผวนจากการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด BOE และ BOJ

เผยแพร่ 16/09/2567 08:47
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลง หลังบรรดาอดีตเจ้าหน้าที่เฟดและอดีตที่ปรึกษาประธานเฟดออกมาสนับสนุนการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC เดือนกันยายนที่จะถึงนี้ 
  • ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงินที่จะสูงขึ้น ในช่วงตลาดรับรู้ ผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด BOE และ BOJ (เรียงตามลำดับการรับรู้)
  • ทิศทางของเงินดอลลาร์จะขึ้นกับการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด โดยเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น หากเฟดไม่ได้เร่งลดดอกเบี้ยและไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งลดดอกเบี้ย ทว่า เงินดอลลาร์อาจถูกกดดันบ้าง ตามการแข็งค่าขึ้นของทั้งเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ในกรณีที่ตลาดเชื่อว่า BOE จะไม่เร่งลดดอกเบี้ย ส่วน BOJ อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้  ในส่วนของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลง หากผลการประชุมเฟดเป็นไปตามที่เราประเมินไว้ (เฟดไม่เร่งลดดอกเบี้ย) ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาทองคำ พร้อมติดตามทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาด
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    33.00-34.10
    บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) อย่างใกล้ชิด โดยเราประเมินว่า เฟดจะเริ่มวัฏจักรนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย (Monetary Easing) ด้วยการทยอยลดดอกเบี้ย -25bps สู่ระดับ 5.00%-5.25% พร้อมกันนั้นคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด หรือ Dot Plot ใหม่ อาจสะท้อนแนวโน้มการลดดอกเบี้ยราว -75pbs ในปีนี้ การลดดอกเบี้ยอีกราว -100bps ในปี 2025 และ การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2026 ราว -75bps จนถึงระดับ 2.75%-3.00% พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใหม่ของเฟด (Summary of Economic Projections) รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) 
  • ฝั่งยุโรปไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยเราประเมินว่า BOE อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.00% ตามเดิม ทว่า BOE อาจส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม หากภาพรวมเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น ซึ่งเรามองว่า BOE อาจลดดอกเบี้ยอีกราว -50bps ในปีนี้ และนอกเหนือจากผลการประชุม BOE ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษ ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนสิงหาคม รวมถึงยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ ECB
  • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคม โดยเรามองว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25% ตามเดิม ทว่าต้องจับตาการส่งสัญญาณของ BOJ ต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า หลังการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด ได้ส่งผลให้ตลาดการเงินปั่นป่วนหนัก ซึ่งในครั้งนี้ เรามองว่า ยังคงต้องจับตาความเสี่ยงการเร่งปรับลดสถานะ JPY-Carry Trade และการเร่งเพิ่มสถานะ Net Long JPY (มองเงินเยนแข็งค่าขึ้น) ซึ่งอาจทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น เร็วและแรงในระยะสั้น กดดันให้ตลาดการเงินผันผวนสูงได้ และนอกเหนือจากผลการประชุม BOJ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารกลางไต้หวัน (CBC) โดยผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า BI และ CBC จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 6.25% และ 2.00% ตามลำดับ 
  • ฝั่งไทยแม้เราจะคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทควรจะทยอยอ่อนค่าลงได้บ้าง โดยเฉพาะในกรณีที่เฟดไม่ได้เร่งลดดอกเบี้ยและไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งลดดอกเบี้ยใน Dot Plot ใหม่อย่างที่ผู้เล่นในตลาดกำลังคาดหวัง ทว่าโมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเริ่มมีกำลังมากขึ้น เปิดโอกาสให้เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นได้ไม่ยาก หากมุมมองของเราต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดนั้นผิดไปจากความเป็นจริง และเงินบาทอาจแข็งค่าหลุดโซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ซึ่งเงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นต่อทดสอบโซน 32.50-32.75 บาทต่อดอลลาร์ ทว่า ในเชิง Valuation นั้น เรามองว่า การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าโซน 33 บาทต่อดอลลาร์นั้น ถือว่า เป็นระดับที่ Slightly Overvalued (Z-Score ของดัชนีค่าเงินบาท REER เกินระดับ +0.25) ซึ่งหากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เงินบาทก็ไม่ควรแข็งค่าเกินระดับดังกล่าวไปมากนัก ซึ่งผู้ประกอบการอย่างฝั่งผู้นำเข้า (Importers) ก็ควรเตรียมพร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย