ลด 50%! ชนะตลาดในปี 2025 ด้วย InvestingProรับส่วนลด

*ทองฟิวเจอร์ร้อนแรง! พุ่งกว่า 20 ดอลลาร์ ทะลุ $2,500

เผยแพร่ 03/08/2567 00:58
*ทองฟิวเจอร์ร้อนแรง! พุ่งกว่า 20 ดอลลาร์ ทะลุ $2,500
GC
-

InfoQuest - ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 2,500 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ ราคาทองได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว หากเงินเฟ้อชะลอตัวลงตามคาด

ณ เวลา 17.28 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 26.50 ดอลลาร์ หรือ 1.07% สู่ระดับ 2,507.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น หลังกลุ่มฮามาสระบุว่า นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาส ได้เสียชีวิตจากการที่อิสราเอลใช้ขีปนาวุธยิงโจมตีที่พักของนายฮานิเยห์ในกรุงเตหะรานของอิหร่าน

"เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นถึงที่สุด และหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะไม่มีประเทศใด ชาติใดที่จะได้ประโยชน์จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง" นายปีเตอร์ สตาโน โฆษกของ EU กล่าว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากที่กองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีแบบเล็งเป้าหมายในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เพื่อสังหารผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เนื่องจากมีส่วนรับผิดชอบต่อการยิงจรวดโจมตีที่ราบสูงโกลันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีเด็กชาวอิสราเอลเสียชีวิตจำนวน 12 ราย

นักวิเคราะห์จาก Glenmede คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มต้นจากเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย., พ.ย. และธ.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยให้น้ำหนัก 70.5% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนัก 29.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนให้น้ำหนัก 65.4% และ 58.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ย.และธ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1%

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย