Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียวันนี้ ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางถูกจับตามองอีกครั้ง หลังรายงานแสดงให้เห็นว่าอิหร่านอาจทบทวนจุดยืนเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ หากอิสราเอลโจมตีแหล่งนิวเคลียร์ของเตหะราน
รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวถึงความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านที่ว่าเตหะรานอาจพิจารณาทบทวนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หากอิสราเอลโจมตีแหล่งนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งจนถึงขณะนี้ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ในการผลิตพลังงานอย่างสันติเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวใด ๆ ดังกล่าวของอิหร่านอาจบ่งบอกถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลให้นักลงทุนหันกลับมาหาตลาดน้ำมันที่มีความเสี่ยงสูงอีกครั้ง
น้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.5% เป็น 89.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.6% เป็น 84.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 21:30 ET (01:30 GMT)
ดัชนีทั้งสองฟื้นจากการขาดทุนอย่างหนักในสัปดาห์นี้ แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สิ้นสุดสัปดาห์แบบลดลงเล็กน้อย
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง
ความคิดเห็นของอิหร่านทำให้ความกังวลในตะวันออกกลางกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนเกรงว่าความขัดแย้งที่ใหญ่ขึ้นในภูมิภาคอาจขัดขวางอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางนั้นเพิ่มมากขึ้นหลังจากอิหร่านเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่ออิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตอบโต้หลังได้กล่าวหาว่าอิสราเอลโจมตีสถานทูตในกรุงดามัสกัส
ความคิดเห็นเมื่อวันพฤหัสบดีได้กล่าวว่า อิหร่านจะหยุดโจมตีอิสราเอลแล้ว และเตือนไม่ให้มีการโจมตีตอบโต้ใด ๆ อีกทั้งความคิดเห็นดังกล่าวยังถือเป็นครั้งแรกที่อิหร่านส่งสัญญาณถึงอาวุธนิวเคลียร์
รายงานของสหประชาชาติล่าสุด แสดงให้เห็นว่าอิหร่านกำลังเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้ถึง 60% ซึ่งเกินระดับที่จำเป็นสำหรับการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ แต่มันก็ต่ำกว่าระดับเสริมสมรรถนะที่ 90% สำหรับระเบิดปรมาณูเช่นกัน
อิสราเอลกล่าวว่าพวกเขาจะตอบโต้อิหร่านจากการโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ทำให้นักลงทุนปรับลดค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงของราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้น้ำมันดิบยังคงขาดทุนรายสัปดาห์
ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับที่ขาดทุนในสัปดาห์นี้
แม้จะทำกำไรเพิ่มขึ้นในวันนี้ แต่ราคาน้ำมันยังคงขาดทุนในเจ็ดวันที่ผ่านมา
แรงกดดันสำคัญต่อราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้คือการแข็งค่าของเงิน ดอลลาร์ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และคำเตือนจากเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายคนว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงขึ้นต่อไปอีกนาน
เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะกดดันอุปสงค์น้ำมันดิบโดยการเพิ่มค่าพรีเมียมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ
แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานานถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความกลัวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกจะถูกขัดขวางจากนโยบายที่เข้มงวด ซึ่งส่วงผลเสียต่อความต้องการน้ำมัน
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าโอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนโดยเฟดนั้นลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม การขาดทุนของน้ำมันดิบก็ได้ถูกจำกัดโดยสหรัฐฯ ที่กลับมาคว่ำบาตรน้ำมันต่อเวเนซุเอลาอีกครั้ง โดยอ้างถึงความคืบหน้าในการจัดการเลือกตั้งที่ยุติธรรมในประเทศ
สหรัฐฯ และพันธมิตรยังได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่านในสัปดาห์นี้อีกด้วย