Investing.com - ราคาน้ำมันดิบ ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร จากการพุ่งขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ ไปสู่จุดสูงสุดในหลายเดือน ท่ามกลางการมองโลกในแง่ดีว่าตลาดกำลังดีและกำลังการปรับสมดุลใหม่
สัญญาน้ำมันดิบ WTI เืดือนตุลาคมของสหรัฐอยู่ที่ 51.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 40 เซนต์หรือประมาณ 0.73% ณ. เวลา 09.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (13:00 GMT) หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ5เดือนที่ 52.43 ดอลลาร์ในช่วงเช้า
น้ำมันเบรนท์ สำหรับการส่งมอบเดือนพฤศจิกายนใน ICE Futures Exchange ในกรุงลอนดอนลดลง 81 เซนต์ หรือประมาณ 1.39% ที่ 57.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 58.88
ราคาได้รับการสนับสนุนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวด จากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีข้อตกลงการลดอุปทานของตน และในขณะที่การพูดคุยเรื่องการต่อสัญญาลดการผลิตมีแนวโน้มเกิดขึ้นสูงมาก
โอเปคและสมาชิกที่ไม่ใช่โอเปก ตกลงที่จะลดการผลิตน้ำมันเนื่องจากผลผลิตสูงขึ้นถึง 116% ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 94%
ในเดือนพฤษภาคม โอเปก และสมาชิกที่ไม่ใช่กลุ่มโอเปค ซึ่งนำโดยรัสเซีย ตกลงที่จะขยายการลดผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นระยะเวลาเก้าเดือนจนถึงเดือนมีนาคม 2018 เพื่อลดการสำรองน้ำมันในตลาดโลก และสนับสนุนราคาน้ำมัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ชี้ว่าเดือนมกราคมเป็นวันที่เร็วที่สุด ที่จะสามารถพิจารณาถึงการขยายข้อตกลงระดับโลก ได้แม้ว่ารัฐมนตรีอื่น ๆ เสนอให้มีการตัดสินใจดังกล่าวก่อนสิ้นปีนี้
การประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการชุดนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่กรุงเวียนนา เพียงหนึ่งวันก่อนการประชุมสามัญตามกำหนดการของโอเปก
ตุรกีขู่จะทำการตัดท่อสำคัญ ที่บรรทุกน้ำมันจากภูมิภาค Kurdistan ของอิรักไปยังโลกภายนอกได้ให้การสนับสนุนเพิ่มเติม ท่อส่งไปยังท่าเรือ Ceyhan ของตุรกีมักจะสูบระหว่าง 500,000-600,000 บาร์เรลต่อวัน
ตอนนี้นักลงทุนมองไปข้างหน้าในข้อมูลรายสัปดาห์จากสหรัฐฯ
เรื่องคงคลังน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจากน้ำมัน เพื่อชั่งน้ำหนักว่าผลกระทบจากการเกิดพายุครั้งล่าสุดส่งผลต่อกับอุปสงค์และอุปทานอย่างไร
น้ำมันเบนซินฟิวเจอร์ส ปรับตัวลดลง 1.20% มาอยู่ที่ 1.651 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ขณะที่ ก๊าซธรรมชาติฟิวเจอร์ส พุ่งขึ้น 0.87% เป็น 3.014 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนอังกฤษ