สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 1.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากในระหว่างวันราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จนราคาทองคําขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,875.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคําจะปรับตัวลดลงในเวลาต่อมาจากแรงขายทํากําไร นอกจากนี้ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที.ครั งแรกลดลงเกินคาดสู่ระดับ 900,000 ราย ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างที่ออกมาดีเกินคาด รวมถึงดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดเฟียที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 26.5 สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําร่วงลงแตะระดับตํ่าสุดบริเวณ 1,858.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี เนื่องจากในระยะนี้ นักลงทุนมองสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินดอลลาร์เป็นสําคัญ
ดังนั้นเมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด บวกรวมกับความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ได้กระตุ้นความหวังเกี่ยวกับฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งบั่นทอนความต้องการสกุลเงินปลอดภัย นักลงทุนจึงเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยออกมา และเข้าซื้อสกุลเงินเสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ส่งผลให้วานนี้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นวันที่ 3 วัน จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคําลดช่วงติดลบลงในที่สุด ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ถือว่าเป็นไปตามคาดคือ ECB คงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมวานนี้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลงสําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ
หากราคาทองคํายังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,875-1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ บ่งชี้ ว่าการปรับตัวขึ้นต่ออยู่ในระดับจํากัด ทําให้อาจเกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,856-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั ง
คําแนะนํา
หากยังไม่สามารถผ่าน 1,875-1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจใช้วิธีการลดพอร์ตการลงทุนลง และสําหรับนักลงทุนที่เก็งกําไรฝั่งซื้อให้รอการอ่อนตัวลงของ ราคาบริเวณแนวรับ 1,856-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International