Beginner’s Luck ... กับปรากฏการณ์หุ้น OR
วันหยุดนี้ เชื่อว่ากาแฟ Amazon ไก่ทอด Texas จะอร่อยกว่าที่เคยกินมา
อย่างน้อยก็สำหรับคนหลายแสนคนที่เป็นผู้ถือหุ้น OR และได้กำไรกันคนละหลายหมื่นบาท
แต่ในรอยยิ้มของความสุขนั้นก็แฝงไว้ด้วยความน่ากลัวคือ บางคนเพิ่งจะเปิดพอร์ตหุ้นเป็นครั้งแรก บางคนยังเข้า streaming ไม่เป็น บางคนบอกว่าวันจันทร์จะซื้อเพิ่ม บางคนเริ่มถามถึงปันผลจะเข้าเมื่อไหร่ บางคนมองไกลถึง 40, 50 หรือเป็น 100 บาทก็มี
มีคำพูดอยู่คำหนึ่งว่า “Beginner’s Luck” หรือ โชคของมือใหม่
เวลาที่เราเริ่มต้นทำอะไรครั้งแรก บางทีเรามักจะโชคดี ได้รางวัล ได้กำไร เช่น จับสลาก สอยดาว จับคูปองส่วนลด เล่นไพ่ เล่นหวย หรือแม้แต่เล่นหุ้น และก็ไม่แน่ว่านักลงทุนมือใหม่หลายคนอาจกำลังโชคดีจาก OR ครั้งนี้อยู่ก็เป็นได้
ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นถ้าเราได้กำไรจาก OR มาง่ายๆ เราก็อาจจะไปลงทุนแบบผิดๆ ได้เช่น
1. วันจันทร์ซื้อ OR เพิ่ม เพราะเห็นเค้าพูดกันว่า มีคนซื้อเยอะแถว 25-26 บาท ราคาไม่น่าลงต่ำกว่าตรงนั้น หรือเห็นไม้ละหลายล้านหุ้นตรงแถวๆ ราคาปิด คิดว่ายังไงก็ไปต่อ
2. DCA ไปเลยยาวๆ หุ้นดีอนาคตไกล เดี๋ยวกองทุนทั้งไทยและต่างชาติก็จะเข้ามาซื้อเพิ่มเพราะจะติดทั้ง SET50 และ MSCI ทั้งๆ ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าคืออะไร
3. ซื้อหุ้น IPO ตัวอื่น บางคนมองว่าซื้อราคาเปิดเลย ถ้าราคาลง เดี๋ยวก็ต้องกลับขึ้นไปใหม่ ดู OR สิ เปิด 26.50 ลงไป 22.10 ยังกลับมาปิด 29.25 บาท ได้เลย
===================
ผมอยากจะแชร์ไอเดียการประเมินหุ้น OR ผ่านความจริง ความหวัง และความโลภ แบบนี้ครับ
ความจริง
อย่างที่ทุกคนทราบกันรายได้หลัก 90% มาจากน้ำมัน ที่มีความผันผวนจากราคาน้ำมัน และขึ้นกับปริมาณการใช้รถ เรือ เครื่องบิน รวมทั้งค่าการตลาดคืออีกปัจจัยในการกำหนดราคา ส่วนร้านกาแฟ ไก่ทอด ร้านสะดวกซื้อ ที่เป็น non-oil ทั้งหลาย คือส่วนที่กำไรดี
ในปีที่ดีๆ เคยเห็นกำไรของ OR อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นตอนนี้ก็ 12,000 ล้านหุ้น ถ้าคิดง่ายๆ สมมติว่า OR กลับไปทำกำไรที่จุดนั้น เราก็อาจจะบอกว่า EPS 1 บาท ราคา 18 บาท ก็ P/E 18 เท่า ราคา 29 บาท P/E 29 เท่า
ถ้าเรามองว่า OR คือส่วนผสมของน้ำมันและร้านอาหาร ร้านค้าปลีก P/E ของกลุ่มนี้ก็อาจจะวิ่งได้ในกรอบ 30-40 เท่า ถ้าดูหุ้นตัวอื่นในอุตสาหกรรมนี้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการทำกำไรและแผนการเติบโตของ OR ประกอบด้วย
ความหวัง
เรากำลังมองถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่เชื่อว่ามันกำลังจะเกิดจากข่าวสารที่เราเห็นและได้ยิน ไม่ว่าจะเป็น เงิน IPO จะเอาไปทำ M&A การบริโภคกาแฟของคนไทยแค่ 200 แก้ว ยังน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น การชยายตัวในกัมพูชา หรือแว่วๆ ว่า อาจะไปจีนด้วย หรือแม้แต่ธีมกัญชงที่กำลังเป็นเทรนด์ก็ไม่แน่ว่าอาจจะสนใจ หรือแม้แต่ค่าการตลาดน้ำมันถ้าปรับขึ้นได้ก็จะเป็นผลดีเพิ่มเติม
สิ่งต่างๆ ที่เราหวัง อาจจะยังตีมูลค่าเป็นตัวเลขแบบชัดๆ ไม่ได้ แต่เราก็มองในมุมบวกไว้ก่อนว่าจะมาช่วยต่อยอดจากความจริงที่เห็น และดันราคาให้ไปต่อ
ความโลภ
ต่อจากความจริงและความหวัง ยิ่งราคาหุ้นขึ้นไปเยอะๆ ยิ่งมีคนแช่งให้ลงเยอะๆ เราก็จะเริ่มมองไปไกลถึงอนาคต บ้างก็มองว่าจะเหมือน DELTA บ้างก็มองว่าจะเหมือน Game Stop บางคนมองไกลถึงแตกพาร์ บางคนมองว่ารายใหญ่ซื้อแพงกว่าเรา กองทุนต้องปรับพอร์ตก็จะซื้อในราคาแพง ยังไงราคาต้องไม่หยุดอยู่เท่านี้ ถ้ามวลชนส่วนมากคิดแบบนี้ ราคาก็จะถูกผลักดันไปได้ต่อ
กลับมาที่ความจริงอีกครั้ง
สุดท้ายแล้ว ความจริงที่จะวกกลับมาอีกรอบ ตอบได้ด้วยประโยคสั้นๆ ของ Benjamin Graham ที่ว่า
“ในระยะสั้นตลาดหุ้นเป็นเครื่องโหวตลงคะแนน แต่ในระยะยาวตลาดหุ้นเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก”
ถ้า OR ดีจริง ผลประกอบการดี กำไรมาตามที่คาด สุดท้ายในระยะยาว ราคาหุ้นก็น่าจะตอบสนองไปในทางเดียวกัน
วันนี้มือใหม่หลายคนได้ Beginner’s Luck จาก OR ไปแล้ว จงมีสติ ศึกษาหาความรู้ให้เยอะ วางแผนให้ดี มีวินัย และถามตัวเองว่า กำไรที่เราได้มานั้นมาจากฝีมือ หรือแค่เราโชคดี
เพื่อไม่ให้สุดท้ายต้องกลายเป็น Beginner’s Lost ครับ
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น