นักลงทุนในตลาดรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างเมื่อได้เห็นผลการเลือกตั้งว่าพรรคเดโมแครตไม่ได้ครองสภาสูงอย่างเบ็ดเสร็จ เพราะหากเป็นเช่นนั้นมีโอกาสสูงที่นโยบายของโจ ไบเดนจะไปขูดรีดภาษีของบริษัทในกลุ่มห้าเทพหุ้นเทคฯ และทำให้กำไรของบริษัทชั้นนำลดลง นี่คือสาเหตุที่พาดหัวข่าวของบางสำนักพิมพ์ถึงเขียนหัวข้อข่าวประมาณว่า “ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ควรซื้อหุ้นแอมาซอนมากเท่ากับตอนนี้อีกแล้ว”
อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ตัวเลขยอดขายปลีกออนไลน์ในไตรมาสที่สองของสหรัฐฯ ทำได้เพียง 16% เท่านั้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดซึ่งตัวเลขนี้ห่างไกลจากยอดขายของบริษัทผู้ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกของแอมาซอน (NASDAQ:AMZN) เป็นอย่างมาก ล่าสุดหุ้นแอมาซอนมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $3111.05 อย่างไรก็ตาม จิม แครมเมอร์ เจ้าของรายการ Mad Money กลับเห็นต่างออกไป เขามองว่าการที่สหภาพยุโรปพึ่งจะตัดสินใจให้การค้าขายของบริษัทผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่เป็นการกีดกันการค้าเป็นเหตุผลที่ทำให้่หุ้นแอมาซอนปรับตัวลดลง
คำพูดของจิม แครมเมอร์ฟังดูแล้วค่อนข้างมีเหตุผลเมื่อได้พิจารณาร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพราะเมื่อดูกราฟแล้วหุ้นของแอมาซอนวิ่งอยู่ในกรอบไซด์เวย์มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เปิดโอกาสให้ใครก็ตามที่ต้องการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้ได้เข้าออกก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไป แต่ต้องระวังหากว่าหุ้นร่วงลงไปต่ำกว่า $2,800 นั่นจะเป็นการเปิดประตูให้หุ้นแอมาซอนได้เปลี่ยนทางเป็นขาลง
จากรูปจะเห็นว่าหุ้นแอมาซอนฟอร์มตัวเป็นรูปแบบหัวไหล่มาตั้งแต่จุดสูงสุดของวันที่ 13 กรกฎาคมซึ่งครั้งนั้นขาขึ้นได้พยายามเอาชนะส่วนหัวของรูปแบบหัวไหล่แต่ไม่สามารถทำได้ จึงเกิดเป็นรูปแบบหัวไหล่ที่มีหัวสองอัน อย่างไรก็ตาม รูปแบบนี้จะยังไม่ถือว่าสำเร็จตราบใดที่ยังไม่เห็นหลักฐานว่าขาขึ้นได้หมดแรงแล้วจริงๆ ในทีนี้หมายถึงการตัดเส้น neckline สีแดงลงไป
เมื่อดูที่กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย การไซด์เวย์เป็นเวลานานทำให้หุ้นของแอมาซอนผันผวนอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันและเคยลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่สร้างจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม จากนั้นราคาก็ดีดกลับขึ้นมาและพยายามจะกลับขึ้นไปอีกครั้งก่อนจะถูกปิดเกมด้วยโดจิสองแท่งติดกัน แสดงให้เห็นว่าขาขึ้นทำไม่สำเร็จอีกเช่นเคย
ทางฝั่งอินดิเคเตอร์แสดงทิศทางของขาลงออกมาได้ชัดเจนที่สุดเพราะทั้ง MACD และ RSI ทำได้เวอร์เจนต์ของขาลงพร้อมกันทั้งคู่และยังทำกับยอดเดียวกันทั้งจุดสูงสุดในวันที่ 13 กรกฎาคมและยอดที่เป็นจุดสูงสุดตลอดกาลในวันที่ 2 กันยายน โดยปกติแล้วการเกิดไดเวอร์เจนต์มักเป็นการบอกว่าแนวโน้มในทิศทางนั้นๆ เริ่มอ่อนแรงแล้ว
เชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาสามารถวิ่งลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันที่ 31 กันยายน วันนั้นจะเป็นวันส่งสัญญาณขาลงที่แท้จริง แต่ก็ต้องระวังเส้นค่าเฉลี่ย 200 ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับด่านสุดท้ายเอาไว้ด้วย
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้หุ้นแอมาซอนสร้างรูปแบบหัวไหล่ให้สำเร็จก่อน จากนั้นราคาต้องหลุดเส้นเทรนด์ไลน์สีแดงลงไปต่ำกว่า 3% หรือต่ำกว่าระดับราคา $2,783 เพื่อป้องกันไม่ให้เจอกับขาลงหลอก จากนั้นรอราคาวิ่งกลับขึ้นมาทดสอบแนวรับที่กลายเป็นแนวต้าน รอแท่งเทียนยืนยันและวางคำสั่งขายตามลงไป
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง คิดและทำเหมือนกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่จังหวะที่ทะลุแนวรับ neckline จะรอเพียงการทะลุเกิน 2%
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันทีที่พร้อม นักลงทุนกลุ่มนี้จัดว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ สามารถยอมรับความเสี่ยงและวางกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมได้
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $3,143
- Stop-Loss: $3,183
- ความเสี่ยง: $40
- เป้าหมายในการทำกำไร:$2,743
- ผลตอบแทน: $400
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:10