Rebound … but capped at 1370-1380
- : คาด SET Index เปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการปรับตัวรีบาวด์ขึ้นหลังจากปรับตัวลงตลอดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในเชิงกลยุทธ์ สำหรับผู้ที่ลดพอร์ตไปแล้วในกรอบแนวต้านดัชนี 1380-1400 จุด แนะนำ Wait & See และชะลอการลงทุนเพื่อรอดูพัฒนาการต่างๆต่อไป โดยเรายังคงเน้นโฟกัสไปยังการเปลี่ยนแปลงของประมาณการ EPS ปีหน้าที่ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 81.8 บาท ตราบใดที่ยังไม่มีสัญญาณปรับขึ้น ถือเป็นปัจจัยจำกัด Upside ที่สำคัญของดัชนีต่อไปซึ่งหากนำตัวเลขดังกล่าวมาคิดคำนวณเป็นกรอบแนวต้านดัชนีในสัปดาห์นี้อิงกรอบ Forward PE แบนบนของเราที่ 16.8 เท่า ก็จะได้ว่าดัชนีจะมีระดับแนวต้านเพียง 1370-1380 จุดเท่านั้น
- Liquidity: นอกเหนือไปจากประเด็นประมาณการ EPS ปีหน้าของ SET Index แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่เราเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนก็คือสภาพคล่องของตลาดหุ้นไทยที่เริ่มลดลงในช่วงหลัง โดยมีสัญญาณบ่งชี้ก็คือกระแสตอบรับจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลที่เริ่มอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นประกอบกับระดับการมีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบันในตลาดหุ้นที่ลดลงอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้จำเป็นต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้วันที่ 15 ก.ค.ซึ่งจะมีการประมูลพันธบัตรรุ่น 20 ปี ว่าจะมีระดับ Bid-to-Cover ดีขึ้นจากการประมูลรุ่นเดียวกันในครั้งก่อนหรือไม่ (1.51x) หากดีขึ้น จะเป็นการสะท้อนการปรากฏการณ์การดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ต่อไปหลังจากที่ระดับ EYG ยังคงอยู่ในระดับเกือบต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง
- Picks: ประเมิน 4 กลุ่มหุ้น Growth stock ที่น่าจะยังปรับตัว Outperform ตลาดต่อไป ได้แก่
- กลุ่มโรงไฟฟ้าได้แก่ BGRIM, GPSC, RATCH
- กลุ่มเกษตรและอาหารได้แก่CPF, TFG
- กลุ่มบริหารสินทรัพย์ได้แก่JMT, CHAYO โดยเราเพิ่ม CHAYO เข้ามาใน List หลังออกบทวิเคราะห์ล่าสุดแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/63 ที่ระดับ 52 ล้านบาท (+40% QoQ / +55% YoY) เป็นระดับ New highโดยมีปัจจัยหนุนมาจากการขาย NPA ส่วนธุรกิจ NPL แม้ในแง่กระแสเงินสดจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 บ้าง แต่รายได้จาก NPL ได้รับผลกระทบน้อยตามเกณฑ์คงค้าง มองภาพครึ่งปีหลังเป็นบวก หลังกรมบังคับคดีกลับมาเปิดประมูล และอาจมีการขาย NPA เพิ่มเติมอีกด้วย ล่าสุด D/E ของบริษัทยังต่ำมากเพียง 0.6 เท่า จึงไม่มีความกังวลทางด้านเงินทุน
- หุ้นขนาดกลาง-เล็กอื่นๆที่อยู่ใน Coverage ของเราและยังคงแนะนำ “ซื้อ” ได้แก่PTG, SFLEX สำหรับ PTG ล่าสุดมีสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง หลังรายงาน Google (NASDAQ:) Mobility Report ฉบับล่าสุดบ่งชี้ว่าปริมาณการสัญจรของผู้ค้นในช่วงหยุดยาววันที่ 4-6 ก.ค.ที่ผ่านมาได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยมีการเติบโตเล็กน้อยจากระดับฐานซึ่งวัดจากช่วงช่วงวันที่ 3 ม.ค. - 6 ก.พ. ได้ราว 5% ด้วยซ้ำ(ดูรูป)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
|