ค่าเงินปอนด์ยังคงหยุดรอเพื่อดูสถานการณ์ว่า Brexit จะมีทางออกต่อไปอย่างไรในอนาคต
ความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแยกตัวของอังกฤษออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลงนั้นทำให้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรจำใจต้องหาข้อตกลงร่วมกันกับอียู รายงานล่าสุดระบุว่าการเจาจายังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ข่าวดีดังกล่าวที่ปรากฏขึ้นเมื่อวานนี้ก็ทำให้เงินสเตอร์ลิงสามารถทะยานขึ้นได้เกือบ 5% จนสามารถทำลายสถิติสูงสุดในรอบห้าเดือนได้ ข้อมูลต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อดูว่าทิศทางของแนวโน้มจะเป็นเช่นไรต่อไปในอนาคต
กราฟราคา GBP รายสัปดาห์
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาก่อนที่จะหาแนวโน้มในอนาคตก็คือทิศทางเดิมนั้นเป็นมาอย่างไร ค่าเงินปอนด์นั้นปรับลดลงไปถึงหนึ่งในสามของค่าที่เคยทำได้ในช่วงของการโหวต Brexit ในปี 2016 และตั้งแต่สหราชอาณาจักรเกิดวิกฤติตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา แนวโน้มของค่าเงินปอนด์เริ่มปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นขาลงมาโดยตลอดและยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้
ปัญหาความผันผวนทางการเมืองคือตัวแปรหลักที่ส่งผลกับทิศทางค่าเงินของประเทศมากกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเสียอีก ปัจจุบันเงินปอนด์ยังร่วงลงจากค่าสูงสุดที่เคยทำได้ในเดือนเมษายน 2018 อย่างต่อเนื่อง
กราฟแสดงอัตราจีดีพีของสหราชอาณาจักร
จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า จีดีพีของสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมาแทบจะคงที่มาตลอด จะมีก็แต่เพียงช่วงล่าสุดนี้เท่านั้นที่เริ่มหดตัวและปรับลดลงอย่างมาก ความพยายามในการหาข้อตกลง Brexit ร่วมกันกับอียูในครั้งนี้แม้จะทำให้ค่าเงินสเตอร์ลิงสูงขึ้นได้ แต่กลับตรงกันข้ามกับจีดีพีของประเทศที่ในขณะนี้กลายเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
หากพิจารณาข้อมูลเชิงเทคนิคจะพบว่า เมื่อวานนี้เงินปอนด์กระโดดไปปิดเหนือเส้น 200 DMA และ 50 WMA รวมทั้งยังสามารถไต่ขึ้นไปอยู่เหนือเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากมาจากค่าสูงสุดของวันที่ 18 เมษายนได้เป็นครั้งแรก ขณะนี้ค่าเงินปอนด์ยังลอยตัวอยู่ในจุดนี้ระหว่างที่นักลงทุนกำลังรอความคืบหน้าเกี่ยวกับทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นระหว่างสหราชอาณาจักรและอียูต่อไป
โปรดสังเกตว่าเงินปอนด์ไปหยุดชั่วคราวอยู่เหนือเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลางซึ่ง บังเอิญเป็นขอบบนของกรอบราคาขาขึ้นระยะสั้นพอดี และเพื่อให้เห็นว่าระดับราคา ณ ตำแหน่งนี้มีความอ่อนไหวเพียงใด เส้น MA 200 วันกับเส้น MA 50 สัปดาห์จึงแสดงให้เห็นว่ามีการตัดกันของแนวโน้มสองเส้นดังกล่าวเกิดขึ้น
หากเงินปอนด์ไต่ขึ้นเหนือเส้นแนวโน้มขาลงระยะยาวที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วิกฤติปี 2008 มาอยู่ที่ 1.4000 ได้ เส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นจะสามารถเอาชนะเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลางได้หรือไม่ นายกจอห์นสันจะพลาดโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลง Brexit จนทำให้ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงไปทำลายสถิติครั้งใหม่ที่ต่ำกว่า 1.2000 หรือเปล่า?
หากราคาปรับตัวขึ้นพ้นขอบบนของกรอบราคาขาขึ้นระยะสั้นที่ตัดกับเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากมาตั้งแต่ปี 2008 ได้ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการกลับตัวในระยะกลางได้อย่างมาก หรือในทางตรงกันข้าม หากมีแท่งเทียนยาวสีแดงเกิดขึ้นจะเป็นการชี้ว่าจะเกิดการกลับตัวไปยังจุดต่ำสุดของกรอบราคาขาขึ้นระยะสั้น และหากทะลุไปได้ก็จะไปทดสอบที่ระดับ 1.2000 อีกครั้ง
กลยุทธ์การซื้อขาย
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ควรรอให้เกิดแนวโน้มที่ชัดเจนตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นเสียก่อน
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรเปิดสถานะ long เมื่อราคาเริ่มทะลุกรอบราคาขาขึ้นระยะสั้นไปได้ แล้วมีการย่อตัวของราคาลงเล็กน้อยเพื่อให้มีโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงแนวรับ หรืออีกกรณีหนึ่งนักลงทุนอาจเลือกเปิดสถานะ short ก็ได้ หากมีแท่งเทียนสีแดงยาวเกิดขึ้นอย่างชัดเจน แล้วมีการกลับตัวของราคาเกิดขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องรอจนราคาไปทดสอบแนวโน้มอีกครั้งก็ได้
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจเลือกพิจารณาลงทุนในทิศทางขาขึ้นหรือจะเลือกดูจากแท่งเทียนยาวสีแดงก็ได้
ตัวอย่างการซื้อขาย – สำหรับการเปิดสถานะ Long
หมายเหตุ: รูปแบบการซื้อขายนี้เป็นเพียงตัวอย่างและไม่ใช่บทเรียนสำหรับการลงทุน ตัวอย่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงหลักการเบื้องต้นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน
ราคาเข้า: 1.2900
Stop-Loss:1.2800
ความเสี่ยง: 100 pips
เป้าหมาย: 1.3200
ผลตอบแทน: 300 pips
อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3