มหกรรมลดราคา Black Friday เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้! ห้ามพลาดกับส่วนลดสูงสุดถึง 60% InvestingProรับส่วนลด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคเช้า ทองยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า

เผยแพร่ 11/05/2564 09:41
อัพเดท 09/07/2566 17:32
XAU/USD
-
GC
-

สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคํายังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐที่แย่ เกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลด QE" นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่ม จากการแข็งค่าของสกุลเงินปอนด์จากแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลังจากอังกฤษเตรียมประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.เป็นต้นไป ขณะที่การลงประชามติ ของสกอตแลนด์เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ําสุดที่ 90.042 ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดนับตั้งแต่ วันที่ 25 ก.พ.จนเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยหนุนทองคํา ประกอบกับเกิดการคาดการณ์ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะพุ่งสูงขึ้น สะท้อนจากความคาดหวังเงินเฟ้อในอีก 10 ปี (10 year breakeven inflation rate)ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.54% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2013 สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีติดลบมากขึ้นสู่ ระดับ -0.91% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่มเติม ปัจจัยที่กล่าวมาช่วยหนุนให้ราคาทองคําปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ3 เดือนครั้งใหม่บริเวณ 1,845.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนจะมีแรงขายทํากําไรสลับออกมา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจ ขนาดเล็กจาก NFIB และตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings) ของสหรัฐ

ราคาทองคําพยายามทรงตัวเคลื่อนไหวในกรอบ จับตาโซนแนวรับ 1,820-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,845-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านแนวต้านแรกได้ จะเกิดแรงขายออกมาโดยมีแนวรับสําคัญอยู่บริเวณ 1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คําแนะนํา อาจรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,820-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทยอยปิดสถานะซื้อเพื่อทํากําไร หากราคาทองคําไม่ผ่าน 1,845-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดูกราฟราคาทองคำ SPOT XAU/USD

https://th.investing.com/currencies/xau-usd

กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT

https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย