🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

จับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ไทยและสหรัฐฯ ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

เผยแพร่ 07/10/2567 08:52
USD/THB
-
THB/USD
-

จับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของไทยและสหรัฐฯ พร้อมติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นตามการปรับลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด 
  • ควรติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก (เฟดและECB) และระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของไทยและสหรัฐฯ
  • โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์อาจชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดได้เลิกคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ทว่าเงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนในช่วงตลาดกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่หากอัตราเงินเฟ้อชะลอลงกว่าคาด ก็อาจกดดันเงินดอลลาร์ได้ ในส่วนของค่าเงินบาท การอ่อนค่าของเงินบาทอาจค่อยเป็นค่อยไป หลังโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เริ่มชะลอลง แต่แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจยังคงกดดันเงินบาทอยู่ อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจยังได้แรงหนุน ตราบใดที่ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งต้องติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด 
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    32.85-33.65
    บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือนกันยายน รวมถึงรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนตุลาคม ซึ่งจะมีการรายงานคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Expectations) ระยะสั้นและระยะยาวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดและรายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดได้เลิกคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด และเริ่มกลับมามีมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดใกล้เคียงกับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ล่าสุดของเฟดมากขึ้น
  • ฝั่งยุโรปผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (Sentix Investor Confidence) เดือนตุลาคม รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB และรายงานการประชุม ECB ล่าสุด
  • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราการเติบโตค่าจ้างของญี่ปุ่น เพื่อประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ในส่วนของนโยบายการเงินนั้น ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) อาจลดดอกเบี้ย -50bps สู่ระดับ 4.75% หลังเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อก็ทยอยเข้าสู่เป้าหมายของ RBNZ ส่วนธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ก็อาจลดดอกเบี้ย -25bps สู่ระดับ 3.25% หลัง BOK ลดความกังวลต่อปัญหาราคาอสังหาฯ และแนวโน้มเงินเฟ้อ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเกาหลีใต้ก็มีแนวโน้มชะลอลง โดยเฉพาะในส่วนของการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุน อนึ่ง ตลาดมองว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.50% ทว่า RBI ก็อาจเริ่มส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นได้ หลังเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงมากขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อก็ชะลอลงต่อเนื่องจนล่าสุดอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของ RBI
  • ฝั่งไทยควรรอติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกันยายน ส่วนอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกันยายนนั้น เราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อมีโอกาสเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 0.62% (-0.09%m/m)  ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจยังคงอยู่แถวระดับ 0.7% และโดยรวมอัตราเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1%-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ทั้งนี้ ควรจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้ทยอยขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแรงขายสินทรัพย์ไทยดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย