Investing.com - ดัชนี S&P 500 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11% ในปี 2025 จากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ระบุในรายงานล่าสุด แต่ยังคาดอีกว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงหลังจากผลงานที่โดดเด่นในปี 2024
GS คาดว่า S&P 500 จะเพิ่มขึ้น 11% สู่ระดับ 6,500 จุดในปีนี้ เทียบกับผลตอบแทนประมาณ 25% ในปี 2024
โดยผลตอบแทนส่วนใหญ่ของดัชนีนั้นเกิดจากหุ้นหลัก 5 ตัว ได้แก่ NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) Apple Inc (NASDAQ:AAPL) Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) และ Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) นักวิเคราะห์ของ GS กล่าว ในขณะที่ดัชนี S&P 500 แบบถ่วงน้ำหนักเท่ากันนั้นเพิ่มขึ้น 13% ในปี 2024
GS ยังระบุอีกว่าครั้งสุดท้ายที่ S&P 500 มีผลตอบแทนต่อเนื่องรายปีเกิน 20% คือในปี 1998 และ 1999 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดฟองสบู่ Dotcom
ดัชนีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักจากกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น โดย GS คาดการณ์การเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 11% ในปี 2025 และ 7% ในปี 2026 ค่าอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ล่วงหน้าคาดว่าจะคงที่ที่ 21.5 เท่าภายในสิ้นปี 2025
S&P 500 เริ่มต้นปี 2025 อย่างซบเซา โดยขยายการขาดทุนจากเดือนธันวาคม เนื่องจากนักลงทุนต่างเทขายทำกำไรบางส่วนจากปี 2024 นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังมีแรงกดดันต่อความต้องการเสี่ยง โดยเฉพาะมุมมองต่อตลาดหุ้นภายในประเทศ
ภาคบริการสื่อสารถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ S&P 500 ในปี 2024 เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้รับแรงหนุนจากกระแสความนิยมในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่แนวโน้มดังกล่าวก็คาดว่าจะชะลอตัวลงในปี 2025 เนื่องจากนักลงทุนต้องการความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อกำไรของบริษัท
ดัชนี NASDAQ คอมโพสิต ซึ่งเน้นหนักไปที่หุ้นเทคโนโลยี มีผลงานดีกว่า S&P 500 ในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 29%