- BYD ไตรมาสแรกชะลอตัว พลาดเป้าคาดการณ์ และเติบโตต่ำสุดในรอบ 4 ปี
- Tesla ยอดขายกลับมาแซง BYD
- ขณะที่ BYD กำลังย่ำแย่ อีลอน มัสก์กลับมาแย่งซีน
- เพียงเดือนละ 300 บาท เข้าถึงหุ้นที่ใช้ AI ประมวลและเลือกหุ้นแทนเรา เรียนรู้เพิ่มเติม>>
- ProPicks: พอร์ตหุ้นที่ใช้เทคโนโลยี AI สุดล้ำ ช่วยเลือกหุ้นเข้าพอร์ตลงทุนของคุณ พิสูจน์แล้วว่าทำกำไรชนะตลาดได้
- ProTips: ข้อมูลหุ้นแบบย่อยง่าย สรุปทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับหุ้นที่คุณกำลังจะลงทุน
- Fair Value และ Health Score: ตัวบ่งชี้ 2 ตัวหลักที่สำคัญในโลกการเงิน ซึ่งเป็นที่นิยมมาใช้ประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุน
- เคื่องมือสแกนหุ้น: ค้นหาหุ้นที่คุณต้องการด้วยตัวกรองหุ้นสุดล้ำ
- ข้อมูลย้อนหลังของหุ้นทั่วโลก: เราให้บริการข้อมูลย้อนหลังตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่ว่าคุณสนใจตลาดหุ้นใด เรามีข้อมูลทุกอย่างอยู่บน investingPro
- และอื่น ๆ อีกมากมาย
BYD ยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ไฟฟ้าของจีน (SZ:{944073|002594}}) (HK:1211) ประสบปัญหาการชะลอตัวในไตรมาสแรกของปี 2024 ทำให้เกิดความกังวลแม้ว่ารายได้สุทธิจะเพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ปีเป็น 4.57 พันล้านหยวน (632 ล้านดอลลาร์)
ในขณะที่รายรับอยู่ที่ 124.94 พันล้านหยวน (17.3 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ก็ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์และเป็นอัตราการเติบโตประจำปีที่ต่ำที่สุดในรอบสี่ปีที่ผ่านมา
ความยากลำบากของ BYD ขยายไปถึงยอดขาย โดยมียอดขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่เพียง 300,000 คันในไตรมาสที่ 1 ซึ่งต่ำกว่าสถิติ 526,000 คันในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 อย่างมาก การลดลงนี้ส่งผลให้ Tesla กลับมาชิงที่ 1 ในด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกหลังจาก BYD เป็นผู้นำในช่วงสั้น ๆ
ในขณะเดียวกัน Tesla (NASDAQ:TSLA) เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการลดตำแหน่งงานและผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง อย่างไรก็ตาม การประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ เช่น การมาถึงของโมเดลราคาประหยัดรุ่นใหม่เร็วกว่าที่คาด และการร่วมมือกับปักกิ่งสำหรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติในประเทศจีน ได้กระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้นกว่า 8% ในเดือนที่ผ่านมา
ขณะนี้ทั้งสองบริษัทเผชิญกับการต่อสู้อันดุเดือดเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพหุ้นของพวกเขา
ภาพรวม BYD: นักวิเคราะห์มองว่ายังอยู่ในภาวะกระทิง
แม้ว่าหุ้นจะระส่ำระส่าย แต่นักวิเคราะห์ก็ยังมองอนาคต BYD สดใส
ที่มา: InvestingPro
แม้ว่ามูลค่ายุติธรรมของหุ้นจะอยู่ที่ประมาณ 41.79 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเพิ่มขึ้น 45.2% จากราคาปัจจุบัน แต่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยในหมู่นักวิเคราะห์ตั้งไว้ที่ 36.96 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง
หุ้น Tesla: สถานะ Nutral แต่มีอัพไซด์เหลืออยู่บ้าง
ปัจจุบันหุ้นของ Tesla เผชิญกับความเชื่อมั่นที่เป็นกลางมากขึ้น โดยมีมูลค่ายุติธรรมอยู่ที่ 183.23 ดอลลาร์ต่อหุ้น และราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 181.85 ดอลลาร์
ที่มา: InvestingPro
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย Cantor Fitzgerald เริ่มรายงานด้วยเรตติ้ง "overweight" และราคาเป้าหมายที่ 230 ดอลลาร์
สรุป
ในขณะที่ Tesla กลับมาเป็นผู้นำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง การสนับสนุนจากนักวิเคราะห์ที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตในอนาคตของ BYD ทำให้ BYD เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ทั้งสองบริษัทมีโอกาสทำกำไรที่น่าตื่นเต้น แต่นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของแต่ละบุคคลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
***
คูปองส่วนลด
เริ่มต้นเดือนด้วยการลงทุนอย่างถูกทิศทาง รับส่วนลดพิเศษในการสมัคร InvestingPro+ และใช้เครื่องมือทั้งหมดของเราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การลงทุนของคุณ (กรอกรหัส proit2024 เพื่อรับส่วนลดเพิ่มเติม)
การสมัครสมาชิกนี้ คุณจะได้รับเครื่องมือเพื่อช่วยให้คุณลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย:
สมัครใช้งานได้แล้ววันนี้ ด้วยแผนรายปีแบบ Investing Pro+ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ กรอกคูปองโค้ด: proit2024 รับส่วนลดสูงสุดถึง 40%
Disclaimer: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นการชักชวน ข้อเสนอ คำแนะนำ หรือคำแนะนำในการลงทุน เนื่องจากไม่มีเจตนาที่จะจูงใจในการซื้อสินทรัพย์แต่อย่างใด เราขอเตือนคุณว่าสินทรัพย์ประเภทใดก็ตามควรประเมินจากหลายมุมมองและมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการตัดสินใจลงทุนและความเสี่ยงอยู่กับนักลงทุน