กลับมาอีกครั้งกับช่วงเวลาแห่งการรายงานผลประกอบการ ในการรายงานผลกำไรไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ครี่งนี้ นักลงทุนจะได้ตื่นเต้นกับตัวเลขรายได้ ไปพร้อมๆ กับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและซัพพลายเชนขาดแคลน ในสายตาของนักวิเคราะห์ พวกเขาประเมินว่าไตรมาสนี้จะเป็นไตรมาสที่สดใสสำหรับนักลงทุนและบริษัทจดทะเบียน
FactSet คาดว่ากำไรในไตรมาสที่ 3 แบบปีต่อปีของบริษัทเอกชนบนดัชนีชื่อดังต่างๆ จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 27.6% หากเกิดขึ้นจริง ตัวเลขนี้ถือเป็นการเติบโตสูงที่สุดครั้งที่สามนับตั้งแต่ปี 2010 ในสัปดาห์นี้จะมีบริษัทไหนรายงานผลประกอบการที่น่าสนใจบ้าง บทความนี้จะพาไปดู
1. JPMorgan Chase
ธนาคารเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาเจพีมอร์แกนเชส (NYSE:JPM) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ในวันอังคารที่ 12 ตุลาคม ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาสนี้เจพีมอร์แกนจะสามารถทำกำไรได้ $29,800 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $3.01
เจพีมอร์แกนได้กำไรจากการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ขาขึ้นในตลาดหุ้นทำให้การทำธุรกรรมผ่านธนาคารชื่อดังรายนี้เพิ่มขึ้น และคาดว่าการเติบโตนี้จะสามารถคงอยู่ได้ต่อไป เมื่อเดือนก่อน เจพีมอร์แกนรายงานว่ากำไรจากการทำธุรกรรมในไตรมาสที่สามคาดว่าจะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในครั้งก่อน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของธนาคารเจพีมอร์แกนจะเพิ่มขึ้นจากปี 2020 สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะธนาคารได้ควบรวมกิจการกับธุรกิจอื่นเพื่อพัฒนาศักยภาพของธนาคารในอนาคต รายงานตัวเลขกำไรในไตรมาสที่สองได้ชื่อว่าเป็นสามเดือนที่ดีที่สุดตลอดกาลของธนาคารเจพีมอร์แกน และกำลังอยู่บนเส้นทางการทำสถิติธนาคารที่มีปริมาณการทำธุรกรรมมากที่สุดแห่งปีจาก M&A
ผลงานขาขึ้นตลอดทั้งปี 2021 ของเจพีมอร์แกนมากกว่าดัชนีเอสแอนด์พี 500 17% ปีนี้หุ้นของเจพีมอร์แกนสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 34% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $170.22
2. Delta Air Lines
สายการบินเดลตาแอร์ไลน์ (NYSE:DAL) จะรายงานผลประกอบการในวันและเวลาเดียวกันกับธนาคารเจพีมอร์แกน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาสนี้เดลตาแอร์ไลน์จะสามารถทำกำไรได้ $8,400 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.17
การกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพของสหรัฐอเมริกาช่วยให้สายการบินทั่วประเทศสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ สำหรับเดลตาแอร์ไลน์นั้น พวกเขากำลังอยู่ในช่วงพยายามจะคัมแบ็คกลับมาจากช่วงติดลบในปี 2020 จากวิกฤตโรคระบาดโควิด ในเดือนกรกฎาคม สายการบินเดลตาแอร์ไลน์คาดการณ์ว่าผลประกอบการบริษัทจะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2021 ความต้องการและความมั่นใจของชาวอเมริกันที่กลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งในปีนี้ช่วยให้บริษัทมีกำไรในช่วงฤดูร้อนมาจนถึงฤดูใบไม้ผลิ
เอ็ดด์ บาสเตียน CEO ของเดลตาแอร์ไลน์ให้ความเห็นว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ 60% ของช่วงเดือนกันยายนปี 2019 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 40% และเดือนมีนาคม 20% การฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่เสียงคือหลักฐานยืนยันการกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยวด้วยเครื่องบิน
หุ้นของสายการบินเดลตาฟื้นตัวกลับขึ้นมา 8% ในปีนี้ มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $43.38 ถือเป็นการกลับมาที่น่าสนใจของธุรกิจสายการบิน หลังจากที่โดนกดดันจากวิกฤตโควิดและการระบาดของสายพันธุ์ในปีที่แล้วมาจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของ 2021
3. Walgreens Boost
วอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ (NASDAQ:WBA) บริษัทเภสัชกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐอเมริกาจะรายงานผลประกอบการแบบปีบัญชีของไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาสนี้วอลกรีนส์จะสามารถทำกำไรได้ $33,030 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.02
วอลกรีนส์ส่งสัญญาณออกมาในช่วงหน้าร้อนว่าอัตราการเติบโตของผลกำไรอาจลดลง แต่จะแลกมากับการลงทุนที่มากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนกับการผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามที่มีความเกี่ยวข้องกับโควิด-19 วอลกรีนส์ได้ประโยชน์อย่างมากจากการระบาดครั้งนี้ พวกเขาเป็นฐานกระจายวัคซีนที่สำคัญให้กับชาวอเมริกันคนใดก็ตามที่เดินเข้ามายังศูนย์เภสัชกรรมของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่าเมื่อชาวอเมริกันส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อัตราเร่งในการฉีดวัคซีนก็จะลดลง ซึ่งรวมไปถึงความต้องการวัคซีนด้วย รายงานผลประกอบการครั้งนี้จึงน่าสนใจว่าอัตราการฉีดวัคซีนจะชะลอตัวลดลงไปมากน้อยเท่าใด ในเดือนที่แล้วราคาหุ้นของวอลกรีนส์ปรับตัวลดลงมากกว่า 7% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $47.38