หากคุณกำลังสร้างพอร์ตการลงทุนที่สามารถรองรับชีวิตวัยทองของคุณแล้วละก็ การเลือกหุ้นปันผลดี มีคุณภาพ และสามารถมอบเงินคืนให้กับคุณได้ในระยะยาวถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่งในการสร้างความมั่งคั่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นความท้าท้ายอย่างหนึ่งที่จะแยกหุ้นที่ดีออกจากหุ้นทั่วไปได้
เคล็ดลับหนึ่งข้อที่นักลงทุนควรใช้ในการพิจารณาแยกหุ้นที่ใช่ออกมาจากหุ้นทั่วไปคือความสามารถในการปันผลระยะยาว บริษัทเหล่านี้จะต้องมีคุณสมบัติคือความสามารถในการเพิ่มเงินปันผลอย่างน้อย 25 ปีติดต่อกัน และการปันผลในทุกๆ ไตรมาสติดต่อกันมาเป็นเวลานานเกินทศวรรษ ไม่ใช่เฉพาะการปันผลในช่วงที่เศรษฐกิจดี แต่ต้องสามารถปันผลในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำได้ด้วย
ในบทความนี้เราได้ยกตัวอย่างหุ้นสามตัวที่มีคุณลักษณะตรงตามเงื่อนไขที่ได้อธิบายไป เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เห็นภาพว่าหุ้นแบบใดที่คู่ควรกับพอร์ตวัยเกษียณของคุณ
1. Target
หนึ่งในคำถามสำคัญเวลาจะเลือกหุ้นปันผลว่าเป็นหุ้นที่ดีหรือไม่ นักลงทุนจะต้องดูว่าบริษัทดังกล่าวสามารถสร้างกระแสเงินสดทั้งในยามที่เศรษฐกิจดีหรือไม่ดีได้มากน้อยแค่ไหน สำหรับคำตอบนี้ หุ้นของบริษัททาร์เก็ต (NYSE:TGT) คือตัวเลือกที่มีคุณลักษณะดังกล่าว
ทาร์เก็ตเป็นบริษัทค้าปลีกอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา พวกเขามีการเพิ่มเงินปันผลอย่างมั่นคงมาตลอด 49 ปีล่าสุด นั่นหมายความว่าบริษัทนี้เคยผ่านวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ๆ มาแล้วไม่ว่าจะเป็นวิกฤตดอทคอม วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ และล่าสุดก็ยังสามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 นอกจากความสามารถในการคืนเงินปันผลให้แก่นักลงทุนทุกไตรมาสแล้ว บริษัททาร์เก็ตยังสามารถรักษาเปอร์เซ็นต์การปันผลกำไรเอาไว้ที่ 22% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของวงการค้าปลีกอยู่ตลอด
ความแข็งแกร่งของทาร์เก็ตมาจากความพยายามลงมือลงแรงพัฒนาร้านค้าปลีกของบริษัทให้มีความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้นของ CEO คนปัจจุบัน นายไบรอัน คอนเนล เขาพยายามปรับปรุงร้านค้าปลีกมากกว่าหนึ่งร้อยสาขา ดึงเอาแบรนด์แฟชันดังๆ ต่างๆ เข้ามาขายในร้านของทาร์เก็ต ในช่วงการแพร่ระบาด เขาก็ได้เปลี่ยนร้านที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ กลายเป็นจุดกระจายสินค้าของบริษัท เพิ่มความเร็วให้กับการส่งของไปยังลูกค้าที่ต้องการ
ในรายงานผลประกอบการที่บริษัทพึ่งรายงานไปในเดือนนี้ มาร์เก็ตรายงานว่ายอดขายเทียบระหว่างร้านค้าเดิมกับการขายสินค้าออนไลน์ในรอบสิบสองเดือนล่าสุดเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ปัจจุบันหุ้นทาร์เก็ตมีการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $0.68 ต่อหุ้น มีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 1.21% ในช่วงเวลาห้าปีล่าสุด เปอร์เซ็นต์การปันผลกำไรคือสู่นักลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ในทุกๆ ปี
2. Abbott Laboratories
บริษัทยาและเวชภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา กระจายอยู่ทั่วโลกใน 130 ประเทศ ‘แอบบอตต์ แลบอราตอรี่’ (NYSE:ABT) คือตัวเลือกที่สองที่เราอยากจะนำเสนอ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และไม่ว่าจะในเวลาที่เศรษฐกิจดีหรือไม่ดี ความเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่เคยเลือกช่วงเวลา
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด แอบบอตต์มีกำไรเพิ่มขึ้นจากการคิดค้นเทคโนโลยี BinaxNOW ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทดสอบการติดเชื้อโควิดแบบ OTC อุปกรณ์ตัวนี้สามารถทำกำไรให้กับแอบบอตต์ $2,200 ล้านเหรียญสหรัฐภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 นี้
ถึงแม้ว่าตอนนี้กระแสการระบาดของโควิดในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกเริ่มทุเลาลงแล้ว แต่บริษัทแอบบอตต์ก็ยังรู้จักกระจายรายได้ของตนเอง พวกเขานำเงินไปลงทุนกับการพัฒนาเครื่องมือผ่าตัดศัลยกรรม ในยุคที่ความภูมิใจของตัวเองลดลงเพราะการเปรียบเทียบกับคนอื่นผ่านสื่อโซเชียลอยู่ตลอดเวลา การเติบโตของวงการศัลยกรรมก็ยิ่งเติบโตมากขึ้น นำมาซึ่งกำไรและกระแสเงินสดให้กับบริษัทแอบบอตต์
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นแอบบอตต์ได้ปรับตัวลดลงมา 3% มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $116.75 แต่ผลงานในรอบห้าปีล่าสุดพบว่าหุ้นแอบบอตต์นั้นได้เติบโตขึ้นมาแล้วมากถึง 200% ปัจจุบันหุ้นแอบบอตต์มีการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $0.45 ต่อหุ้น มีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 1.52% ในช่วงเวลาห้าปีล่าสุด เปอร์เซ็นต์การปันผลกำไรคือสู่นักลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ในทุกๆ ปี
3. McDonald’s
เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ร้านอาหารฟาส์ตฟู๊ดยอดนิยมรายนี้ ไม่ว่าการแพร่ระบาดจะรุนแรงเพียงใด ผู้คนก็ยังต้องบริโภค ต้องกิน ต้องดื่ม ในยามที่คิดอะไรไม่ออก แมคโดนัลด์ (NYSE:MCD) มักจะเป็นคำตอบนั้นอยู่เสมอ ในแง่ของความสามารถในการปันผล แมคโดนัลด์ไม่เคยหยุดที่จะเพิ่มเงินปันผลในแต่ละครั้ง ซึ่งบริษัทนี้ได้เริ่มต้นการปันผลมาตั้งแต่ปี 1976
ถึงแม้ว่าแมคโดนัลด์จะมีสาขาอยู่มากมายทั่วโลก และได้กำไรจากสาขาเหล่านั้นมากมายมหาศาลในทุกๆ ปี แต่การเข้ามาของวิกฤตโควิด-19 ก็สร้างผลกระทบให้กับแมคโดนัลด์อยู่พอสมควร ร้านอาหารของแมคโดนัลด์ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตามด้วยประสิทธิภาพการกระจายวัคซีนของรัฐบาลในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้แมคโดนัลด์สามารถกลับมาทำยอดขายได้จนเกือบจะเป็นปกติ เมื่อเดือนที่แล้วแมคโดนัลด์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์กำไรของบริษัทในปี 2021 แมคโดนัลด์เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ (เฉพาะสหรัฐอเมริกา) พวกเขาจะสามารถกลับไปทำยอดขายได้เทียบเท่ากับยุคก่อนโควิด
หุ้นแมคโดนัลด์มีตัวเลขการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $1.29 ต่อหุ้น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 2.2% มีเปอร์เซ็นต์ของการปันผลเทียบกับกำไรที่บริษัททำได้อยู่ที่ 73% และยิ่งสหรัฐฯ สามารถฟื้นเศรษฐกิจกลับมาได้เร็วเท่าไหร่ บริษัทแมคโดนัลด์ก็ยิ่งสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เร็วมากเท่านั้น