รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

คนไข้ต่างชาติที่ลดลง กับหุ้นโรงพยาบาล

เผยแพร่ 25/06/2563 19:12
อัพเดท 09/07/2566 17:32

โรงพยาบาล เป็นหนึ่งในหุ้นขวัญใจนักลงทุนหลายคน บางคนมองว่าเป็นหุ้น Defensive เป็นหุ้นที่มั่นคงไม่หวือหวา

เป็นหุ้นที่อยู่ในเทรนด์การดูแลรักษาทั้งเด็กและผู้สูงอายุ แต่ก่อนที่เราจะลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ เราควรต้องรู้อะไรบ้าง มาดูกันครับ

1.ประเภทของโรงพยาบาลว่าเน้นทางด้านไหน เช่น รักษาโรคทั่วไป รักษาเด็ก ผู้สูงอายุ โรคเฉพาะทางเช่น ไต หัวใจ เน้นประกันสังคม

2.สัดส่วนผู้ป่วย เช่น OPD:IPD คนไข้ไทย:คนไข้ต่างประเทศ หรือ คนไข้ประกันสังคม:คนไข้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง

3.อัตราครองเตียง เพื่อให้เราได้เห็นภาพว่า โรงพยาบาลยังสามารถรองรับคนไข้ที่จะ admit ได้อีกมากน้อยแค่ไหน

4. แผนการลงทุนในอนาคต หลายคนคิดว่า เปิดโรงพยาบาลใหม่ เปิดตึกใหม่จะดี จริงๆ อาจไม่ดีเสมอไปในช่วงแรก เพราะรายได้ยังมาไม่ทันค่าเสื่อม ก็อาจจะต้องขาดทุนไปก่อน 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น

มาพูดถึงสถานการณ์ในช่วงนี้ เราจะเห็นได้ว่า COVID-19 กระทบกับโรงพยาบาลในแง่ที่ว่า คนไข้ต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาได้ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นคนไข้จากตะวันออกกลาง CLMV และชาวจีน (และก็มีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยอยากไปโรงพยาบาลเพราะกังวลเรื่องการติตโรค)

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยบอกว่า ปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลไทย 3.42 ล้านครั้ง สร้างรายได้ 1.4 แสนล้านบาท ถ้าเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาไทยปีละเกือบ 40 ล้านคน ก็คิดเป็นเกือบ 10% เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

วันนี้เราลองมาดูกันครับว่าแต่ละโรงพยาบาลมีสัดส่วนคนไข้ต่างชาติโยประมาณเป็นเท่าไรกันบ้าง

BH มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ 66%
BDMS มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ 30%
PR9 มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ 15%
BCH มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ 11-12%
EKH มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ 10-12%

ถ้ามองในประเด็นนี้ BH น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด รองมาคือ BDMS ส่วนที่เหลือ PR9, BCH และ EKH พอๆ กัน ขณะที่โรงพยาบาลอื่นๆ มีสัดส่วนคนไข้ต่างชาติเป็นเลขหลักเดียวก็อาจจะกระทบน้อยกว่า

แต่เราก็จำเป็นต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย เช่น บางโรงพยาบาลมีการเปิดตึกใหม่ บางโรงพยาบาลมีคนไข้ประกันสังคมเยอะ ดังนั้น เรามาลองเจาะลึกถึงหุ้นแต่ละแห่งกันโดยใช้ข้อมูลจาก Jitta กันครับ


====================

#BH โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์
.
มองที่ภาพใหญ่ Jitta Score 6.43 บอกว่า เป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพที่ดี
เจาะลงมาที่ Jitta Factors บอกเราว่า BH มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีความน่ากังวลตรงผลประกอบการช่วงหลังๆ เริ่มแผ่วลง
ดูรายละเอียดที่ Jitta Signs บอกเราว่า BH มีรายได้และกำไรมั่นคง สม่ำเสมอ หนี้สินน้อยโดยเฉพาะหนี้ระยะยาว ไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายดอกเบี้ย แถมยังจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้ทุกปี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ มาร์จิ้นเริ่มลดลง SG&A เพิ่ม และทำให้สุดท้าย EPS ลดลง
งบ Q1’20 กำไรสุทธิ 765 ล้านบาท -29.2% ได้รับผลกระทบจากคนไข้ต่างชาติโดยเฉพาะตะวันออกกลางลดลง (-16.4%) และคนไทยก็ลดลงเช่นกัน (-1.5%)
ในแง่ของราคา Over Jitta Line 102.5% ก็ยังดูว่าค่อนข้างสูงอยู่

โดยสรุปภาพคร่าวๆ เราก็พอจะเห็นได้ว่า BH พื้นฐานมั่นคง ล้มยาก แต่ว่าความสามารถในการเติบโตดูแผ่วตั้งแต่ก่อน COVID แล้ว พอมาเจอวิกฤตก็ทำให้รายได้และกำไรลดลงมากขึ้นไปอีกเพราะคนไข้ต่างชาติลดลง

====================

# (BK:BDMS) โรงพยาบาลกรุงเทพ

มองที่ภาพใหญ่ Jitta Score 6.73 คุณภาพดี คะแนนสูงกว่า BH นิดหน่อยด้วย
เจาะลงมาที่ Jitta Factors บอกเราว่า BDMS มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการช่วงหลังๆ ก็ยังดูดีอยู่
ดูรายละเอียดที่ Jitta Signs บอกเราว่า BDMS รายได้และกำไรสม่ำเสมอ หนี้สินระยะยาวต่ำ ไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายดอกเบี้ย จ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้ตลอด แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ การลงทุนอยู่ในระดับที่สูงมาก และ SG&A เพิ่ม ซึ่งจะกดดันกำไรสุทธิ
งบ Q1’20 กำไรสุทธิ 2,568 ล้านบาท -69.5% ที่เห็นว่าติดลบเยอะเพราะปีที่แล้วมีรายการพิเศษขายเงินลงทุนโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะเห็นการลดลงของคนไข้ตะวันออกกลาง และจีน โดยเฉพาะโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ค่อนข้างมาก
ในแง่ของราคา Over Jitta Line 123.1% ก็ยังดูว่าค่อนข้างสูงอยู่

โดยสรุปภาพคร่าวๆ BDMS พื้นฐานแข็งแกร่ง กำไรเติบโตดี แต่อาจจะมีการลงทุนที่สูงซึ่งอาจส่งผลต่อกำไรในระยะสั้น และให้ติดตามผลของการลงทุนว่าจะออกดอกออกผลได้มากน้อยแค่ไหนในอนาคต

====================

#PR9 โรงพยาบาลพระราม 9

มองที่ภาพใหญ่ Jitta Score 5.06 บอกว่า เป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพใช้ได้ตามมาตรฐาน
เจาะลงมาที่ Jitta Factors บอกเราว่า PR9 มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง แต่ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ดูรายละเอียดที่ Jitta Signs บอกเราว่า PR9 มีรายได้และกำไรสม่ำเสมอ หนี้สินระยะยาวต่ำ แต่ผลกำไรในช่วงหลังดูไม่ค่อยเติบโตนัก และค่าใช้จ่าย SG&A ค่อนข้างสูงซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมาตรฐานบัญชีใหม่และบันทึกขาดทุนในเงินลงทุน
งบ Q1’20 กำไรสุทธิ 37 ล้านบาท -56.6% เป็นการลดลงของรายได้ผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยชาวไทยมากกว่า ขณะที่คนไข้ต่างชาติล ดลงแค่ 1.5% เท่านั้น
ในแง่ของราคา Over Jitta Line 21.2% ก็ยังดูว่าแพงนิดหน่อย
.
โดยสรุปภาพคร่าวๆ PR9 พื้นฐานการเงินแข็งแรง แต่การใช้จ่ายเยอะ และกำไรไม่ค่อยเติบโตมากนัก ตอนนี้ PR9 มีการเปิดตึกใหม่เน้นด้าน Wellness และปรับปรุงตึกเดิมรองรับผู้ป่วยในมากขึ้น เน้นที่โรคร้ายแรงที่เป็นจุดเด่นอย่างโรคไตและหัวใจ ต้องติดตามดูว่ารายได้ กำไรจะชนะค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายเมื่อไหร่
..
====================
.
#BCH โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
.
มองที่ภาพใหญ่ Jitta Score 6.38 บอกว่า เป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพดี
เจาะลงมาที่ Jitta Factors บอกเราว่า BCH มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอยู่ในเกณฑ์ดี การเติบโตของกำไรดี ความสามารถในการแข่งขันสูง
ดูรายละเอียดที่ Jitta Signs บอกเราว่า BCH มีรายได้และกำไรสม่ำเสมอในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ปันผลเป็นเงินสดเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายดอกเบี้ย แต่เหมือน BDMS, PR9 ที่มีการใช้จ่าย SG&A สูง และเม็ดเงินลงทุนสูง
งบ Q1’20 กำไรสุทธิ 259 ล้านบาท +4.4% จะเห็นว่ามีกำไรเป็นบวก มีการเติบโตได้ดีโดยเฉพาะรายได้ประกันสังคมที่ได้รับการปรับค่าหัวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีการเปิดให้ตรวจ COVID ด้วย และมีการควบคุมต้นทุนต่างๆ ได้ดีอยู่
ในแง่ของราคา Over Jitta Line 66.1% ก็ยังดูว่าค่อนข้างสูงอยู่

โดยสรุปภาพคร่าวๆ BCH พื้นฐานมั่นคง กำไรโตดี แต่มีการลงทุนสูง ซึ่งน่าจะเป็นโรงพยาบาล 3 แห่งใหม่ ที่กำลังทยอยเปิดในปี 2020 และ 2021 ซึ่งต้องคอยติดตามผลตอบรับ และดูว่าค่าเสื่อมจะกดดันกำไรมากน้อยแค่ไหน

====================
.
#EKH โรงพยาบาลเอกชัย

มองที่ภาพใหญ่ Jitta Score 6.67 ถือว่าได้คะแนนสูงมาก (เป็นอันดับสองรองจาก BDMS) แม้ว่าจะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก
เจาะลงมาที่ Jitta Factors บอกเราว่า EKH มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง มีการเติบโตของกำไรที่ดี แต่ว่าระยะสั้นดูเริ่มแผ่วลง
ดูรายละเอียดที่ Jitta Signs บอกเราว่า EKH มีรายได้และกำไรเติบโตในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา แต่แค่รอบหลังๆ การเติบโตเริ่มแผ่ว หนี้สินน้อยโดย ไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายดอกเบี้ย แต่ระวังเรื่องค่าใช้จ่ายว่าเริ่มสูงขึ้น
งบ Q1’20 กำไรสุทธิ 11.3 ล้านบาท -74.8% ลดลงค่อนข้างเยอะ เหตุผลแรกเพราะ IVF สัดส่วนประมาณ 15% ของรายได้รวม คนจีนที่มาใช้บริการประมาณ 90% ลดลงจำนวนมากทำให้รายได้ส่วนนี้หายไป กับเหตุผลที่สอง การเปิดตึกใหม่ที่คนไข้ยังไม่เต็มก็จะโดนค่าเสื่อมกดดัน
ในแง่ของราคา Over Jitta Line 3.9% ไม่แพงมากเทียบกับโรงพยาบาลอื่นๆ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา


โดยสรุปภาพคร่าวๆ เราก็พอจะเห็นได้ว่า EKH พื้นฐานงบดี แต่ดูแผ่วลงช่วงหลัง และค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้น มีการสร้างตึกใหม่ก็จะมีค่าเสื่อมมากระทบได้


โดยภาพรวมแล้ว เราก็จะเห็นได้ว่า ทุกโรงพยาบาลที่เราพูดถึงมีพื้นฐานด้านงบการเงินที่แข็งแกร่ง หนี้สินน้อย น่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้

แต่ว่าจะได้รับผลกระทบในแง่กำไรจากการที่คนไข้ต่างชาติลดลง มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป และหลายโรงพยาบาลก็มีการลงทุนค่อนข้างสูงในช่วงนี้ด้วย ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มเติม

เชื่อว่าถ้าคนไข้ต่างชาติกลับมาเมื่อไหร่ ก็จะส่งผลดีต่อทุกโรงพยาบาลได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน

#ส่องหุ้นสู้วิกฤต #Jitta #วิตามินหุ้น
Source:
- S&P Global Market Intelligence เรียบเรียงโดย Jitta
- Company Oppday and Analyst Presentation

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins-วิตามินหุ้น

...

ห้ามพลาดครับ

Netflix กับ Disney ลงทุนกับหุ้นตัวไหนดีตอนนี้?

3 หุ้นธุรกิจ E-Commerce ที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก

7 เรื่องดี ๆ ของ DTAC ขึ้นปีที่ 14 ในตลาดหุ้นไทย!

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย